จักรพงษ์ ประสานสถานทูตญี่ปุ่น ถกปัญหาแรงงานไทยลักลอบทำงาน เผย “ญี่ปุ่น” ยังให้ความสำคัญกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย ระบุ ทบทวนฟรีวีซ่าเป็นเรื่องปกติที่ต้องพิจารณาทุก 3 ปี
นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประเทศญี่ปุ่น ส่งสัญญาณในการทบทวนมาตรการฟรีวีซ่าไทย หลังนักท่องเที่ยวลักลอบเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ว่า ได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานทูตญี่ปุ่นแล้ว ตนได้อธิบายว่าต้องแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยที่ไปแล้วอยู่ตามกำหนด ซึ่งมีประมาณเกือบล้านคนต่อปี ซึ่งทางญี่ปุ่นได้ให้ความสำคัญ และเขายังได้นำข้อมูลที่เราจะส่งให้ไปพิจารณาด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้คนอยู่เกินกำหนด
เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยกับรัฐมนตรีแรงงานหรือไม่ นายจักรพงษ์ ระบุว่า กำลังคุยกันอยู่ และทราบว่าท่านกำลังจะไปญี่ปุ่น หลังจากนี้ก็คงต้องคุยกันบ้าง ว่าจะมีวิธีการอย่างไร ในการช่วยเหลือแรงงานไทย ที่ทำงานที่ญี่ปุ่นจริงๆ เพื่อที่เขาจะได้ไปอย่างถูกกฎหมาย และได้รับสวัสดิการ ส่วนการทบทวนวีซ่าที่จริงแล้วมีการพิจารณาทุก 3 ปี เหมือนกับที่เราทำฟรีวีซ่าให้กับประเทศต่าง ๆ ที่ทุก ๆ 3 ปีจะต้องกลับมาพิจารณาเรื่องความคุ้มค่า และปัญหาต่าง ๆ เพื่อที่จะได้คุยกับทางประเทศนั้น ๆ ว่าจะมีการพัฒนาร่วมกันอย่างไร และมีอะไรที่ต้องจัดการบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามว่าทางสถานทูตไทยที่ประเทศญี่ปุ่นเคยออกประกาศเตือนแรงงานไทยที่ยังลักลอบอยู่เกินกำหนด จะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายจักรพงษ์ระบุว่า เราต้องเอาข้อมูลมานั่งดูกัน ว่ามีกลุ่มไหนเสี่ยงบ้าง แต่เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคล จึงต้องค่อย ๆ พิจารณา ว่าจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้มากน้อยเพียงใด ทั้งนี้กรณีของประเทศญี่ปุ่นแตกต่างจากกรณีแรงงานที่ลักลอบทำงานในเกาหลี
ขณะที่ฟรีวีซ่าประเทศฟินแลนด์ สำหรับแรงงานไทยที่เข้าไปเก็บเบอร์รี่ นายจักรพงษ์กล่าวว่า กรณีประเทศฟินแลนด์ไม่ใช่ฟรีวีซ่าแต่เป็นการให้คนไทยเข้าไปเก็บเกี่ยวเบอร์รี่ และด้วยความที่ประเทศฟินแลนด์ ไม่ได้มีเรื่องของวีซ่าแรงงานกับเรา ทำให้แรงงานไทยเข้าไป โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว ทำไม่ให้มีเรื่องสิทธิการคุ้มครองแรงงาน และมีเรื่องของการโดนหลอกเข้าไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานต่อ ว่าจะทำอย่างไร เพราะว่าการที่คนไทยเข้าไปจะต้องได้รับการคุ้มครอง และได้รับสิทธิประโยชน์เท่ากับแรงงานทั่วไป
Advertisement