บิ๊กเกรียง รายงานตัว สว. พร้อมรับตำแหน่ง ประธานวุฒิสภา เปิดใจ สีน้ำเงินเข้ม "ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์"
วันที่ 12 ก.ค 67 ที่รัฐสภา บรรยากาศการรายงานตัวของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) วันที่สอง ช่วงเช้าที่ผ่านมาค่อนข้างบางตา เพราะการรายงานตัวเมื่อวานนี้วันแรก มี สว.เข้ารายงานตัวไปแล้ว 136 คน ทำให้เหลือจำนวน สว.ที่ยังไม่ได้รายงานตัวอีก 67 คน ที่จะต้องทยอยเดินทางมารายงานตัวในวันนี้
ส่วนใหญ่ยังพร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลืองตราสัญลักษณ์ 6 รอบ 72 พรรษา มารายงานตัว เนื่องในเดือนมหามงคล
ทั้งนี้ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สว.จากกลุ่มที่ 1 กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง จากจ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม และเป็นตัวเต็งชิงตำแหน่ง ประธานวุฒิสภา หลังจากที่ได้รายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาในวันที่สองแล้ว ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอย่างเป็นกันเองและอารมณ์ดีว่า รู้สึกดีที่ได้รับการต้อนรับอบอุ่น โดยได้ถอดสร้อยคอให้กับสื่อมวลชนดูว่ามีทั้งเหรียญพระเกจิ และพระกริ่ง ปวเรศ ที่ระลึกในหลวงรัชกาลที่ 9
ผู้สื่อข่าวถามความคิดเห็นเรื่องการถูกยกให้เป็นตัวเต็ง ประธานวุฒิสภา พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า เป็นเรื่องที่สื่อตั้งให้ แต่ต้องขอบคุณทุกคน อย่างไรก็ตามก็พร้อมรับตำแหน่งประธานวุฒิสภา เมื่อถึงเวลา เพราะทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ทุกคนมีประสบการณ์ที่สามารถทำงานได้ แต่ตนอาจถูกนำเสนอมากกว่า
เมื่อถามถึงความใกล้ชิดกับพรรคการเมือง พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ตนไม่ได้ใกล้ชิดกับพรรคการเมือง ไม่เคยเป็นสมาชิก แต่เป็นเพื่อนสนิทนาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตั้งแต่เรียน วปอ.ก็ยังคงมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกัน
เมื่อถามว่า มีการพูดถึงสภาสีน้ำเงิน ท่านเป็น สว.สายสีน้ำเงินมั้ย พล.อ.เกรียงไกร ตอบว่า สายสีน้ำเงินไหม ไม่ครับ ผมสีน้ำเงินเข้ม ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จงรักเทิดทูนด้วยชีวิต
เมื่อถามถึงกรณีที่ สภาฯนี้ถูกเรียกว่าสภาอาชีพ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ไม่เกินความคาดหมาย เพราะกติกาเขากำหนดให้มีกลุ่มอาชีพตั้ง 20 กลุ่ม ถือว่ามีบริบทในแต่ละกลุ่ม ทุกคนมีความถนัด ทางด้านวิชาชีพตัวเอง เพราะฉะนั้น 200 คนที่เป็นสมาชิกวุฒิสภา ถือเป็นผู้แทนของกลุ่มอาชีพ
Advertisement