สะพัด! “ธรรมนัส”ส่ง 3 ชื่อ รมต.ดันน้องชายขึ้นแทน

สะพัด! “ธรรมนัส พรหมเผ่า ”ส่ง 3 ชื่อ รมต.ดันน้องชายขึ้นแทน ยืนยันไม่ได้นัดหารือพรรคประชาธิปัตย์

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แตกเป็น 2 กลุ่ม หลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค พปชร.ประกาศแยกตัว พล.อ.ประวิตรวงษ์ สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. และระบุว่ามี 34 สส.ในมือ มีรายงานข่าวว่ากลางดึกวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส พร้อมด้วยนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เดินทางไปพบกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหารือจับมือทางการเมืองเข้าร่วมรัฐบาล ขณะที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข

ล่าสุดวันที่ 21 ส.ค.67 ที่รัฐสภา นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชรพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขณะนี้มีการส่งรายชื่อบุคคลที่จะเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมระบุว่า “จบแล้วครับ เรียบร้อยแล้ว“ เมื่อถามต่อว่าสัดส่วนของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้มีกี่คน นายไผ่ ระบุว่า ”น่าจะประมาณเดิม“

เมื่อถามย้ำว่าจำนวน 3 หรือ 4 คน นายไผ่ ย้ำว่าประมาณเดิม โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาร้อยเอกธรรมนัส ได้พูดคุยกับแกนนำพรรคเพื่อไทย ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ได้อัพเดทข้อมูลเนื่องจากต้องให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน แต่เท่าที่ได้พูดคุยมาก็คือประมาณเดิม

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าทั้ง 2 ฝั่งของพรรคพลังประชารัฐมีการส่งรายชื่อ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร เป็นรัฐมนตรีซ้ำนั้น นายไผ่ ระบุว่า ตนไม่ทราบ ส่วนนายอรรถกร จะอยู่ฝั่งใครนั้น นายไผ่ ระบุว่า “นายอรรถกร น้องผม ก็ต้องอยู่กับผม” พร้อมย้ำว่า ทุกคนไม่ได้มีปัญหากับพรรคพลังประชารัฐและพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เรายังคงรักและเคารพเสมอ แต่ขอทำงานในทิศทางที่เป็นข้อมูลที่ได้รับมา ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งเราได้มีการประสานงานกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด และเป็นผู้ประสานงานหลักมาโดยตลอดแต่ก่อนสมัยเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พร้อมกับกล่าวว่าตนเคยอยู่พรรคเพื่อไทย และโตมามาจากที่นั่น ซึ่งตนเชื่อว่าข้อมูลของเราเป็นข้อมูลจริง และได้รับการกลั่นกรองมาแล้ว

เมื่อถามว่านอกจากก๊วนของร้อยเอกธรรมนัสแล้ว ยังมีพรรคประชารัฐร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ขอให้ไปสอบถามนางสาวแพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นผู้ตัดสินใจ ตนไม่สามารถไปกดดัน ไม่อยากสร้างเงื่อนไขทางการเมือง เพราะประชาชนต้องการตั้งคณะรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จ เพื่อทำนโยบายให้สำเร็จ

เมื่อถามว่าแสดงว่ายังทำงานร่วมกันได้ใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า เราทำงานร่วมกับทุกคนได้ และทำงานเพื่อประชาชนเป็นหลัก

ส่วนกระแสข่าวว่าที่การตกลง มีการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีให้ร้อยเอกธรรมนัส 3 ที่ แต่มีเงื่อนไขให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ ร่วมด้วยนั้น นายไผ่ ระบุว่า ตนเชื่อว่านายสันติ มาอยู่แล้ว

ส่วนนายสันติไปบ้านป่ารอยต่อจะเป็นการเหยียบเรือสองแคมหรือไม่ นายไผ่ ระบุว่า ตนไม่ได้คิดเช่นนั้น ไม่มีใครคิดร้ายต่อหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังคงรักเหมือนเดิม และเชื่อว่าการพูดคุยเป็นไปได้ตลอด พร้อมรีบพูดแก้ว่า “พูดคุยเรื่องอื่นนะ”

ส่วนสส.อีก 14 คนหากไหลมาอยู่กับก๊วน ร้อยเอ็กธรรมนัส จะปิดประตูรับหรือไม่ นายไผ่ ระบุว่า ตามที่ร้อยเอกธรรมมนัส เคยกล่าว วันนี้เราเป็นครอบครัว สส. ทุกคนต้องพูดคุยกัน เพราะเราได้เลือกเราว่าจะเอาอย่างไร

ส่วนสัดส่วนของรัฐมนตรี สอดคล้องกับจำนวนสส.ในกลุ่มหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า จริงๆก็ต้องเป็นที่ตอบได้ เพราะเราทำงานเป็นพรรคร่วม ตนเชื่อว่าจะต้องมีความสอดคล้องกัน เมื่อถามย้ำว่าจำนวน สส.ในมือขณะนี้มีเท่าใดนั้น นายไผ่ กล่าวว่า ขณะนี้มีจำนวนสส.ของพรรคเล็กมารวมด้วย แต่วันนี้จำนวนไม่สำคัญแล้ว แต่จะทำอย่างไรให้รัฐบาลรีบตั้งคณะรัฐมนตรี และเชื่อว่าหลังจากการตั้งครม.แล้วเสร็จ ตนแอบได้ยินมาว่าทุกคนจะได้รับข่าวดีอีกเยอะ ทั้งเรื่องของนโยบาย ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นไปตามที่ประชาชนต้องการ

ส่วนสส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ อยู่กับใครนั้น นายไผ่ ระบุว่า น่าจะอยู่กับเรา

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าร้อยเอกธรรมนัส ไปพบกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อคืนนั้น นายไผ่ ระบุว่า หากเป็นบ้านตน ตนไม่เห็นนายเฉลิมชัย ในบ้าน ตนก็เลยไม่รู้ ส่วนร้อยเอกธรรมนัส ไปพบหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบจริงๆ เพราะมองว่าไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะเดินเกมหลังบ้าน คุยกับพรรคประชาธิปัตย์ และยืนยันว่าเราจะไม่กดดันการทำงานของของนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย จะให้การทำงานเดินหน้าไปได้

เมื่อถามถึงคุณสมบัติของการเป็นรัฐมนตรี ของนายไผ่ เรียบร้อยดีหรือไม่ นายไผ่ อมยิ้มก่อนที่จะตอบว่า ตนไม่ได้ยึดติดและสนใจในเรื่องนั้น รวมถึงทุกคนที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี อาจจะมีการถูกถามถึงคุณสมบัติ ตนขอถามว่าเมื่อมีการตีความคุณสมบัติออกมาแบบนี้คำว่าจริยธรรม โดยเหตุผลอันประจักษ์ ค่อนข้างจะลำบาก การที่จะออกมาพูดว่ามีชื่อใครบ้าง แต่เขาไม่ได้ขึ้นมา เขาจะโดนอย่างไร เขาต้องเล่นการเมืองต่อ แล้วแสดงว่าเขาไม่มีจริยธรรมอย่างนั้นหรือ มันทำไม่ได้ วันนี้เราคงไม่ได้มานั่งบอกว่าเป็นใคร ถ้าไม่ได้ก็คงต้องเปลี่ยนกันไป ตนเชื่อว่าทุกพรรคไม่มีใครพูดว่าหากไม่ได้ตำแหน่งแล้วจะไม่ร่วม วันนี้ขอให้เดินไปได้ก่อนซึ่งทุกคนต้องช่วยกันสื่อสารว่าบริบทเป็นแบบนี้

เมื่อสอบถามมีการติดใจคุณสมบัติ ร้อยเอกธรรมนัส จนมีกระแสข่าวว่าเปลี่ยนตัวเป็น นายอัครา พรหมเผ่า น้องชายนั้น นายไผ่ ยืนยันว่า “ไม่มี ไม่ได้ติดใจ และเท่าที่ตนทราบวันนี้กฤษฎีกาและเลขาครม.ต้องกำหนดกรอบ ก่อนที่จะยื่นคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ คาดว่าอีก 2 สัปดาห์จะได้เห็นหน้าครม. หรืออาจจะเร็วกว่าก็ได้ ซึ่งหากอะไรออกไปจากตรงนี้จะเป็นการกดดันนายกรัฐมนตรี ตนเชื่อว่ามารยาททางการเมืองเป็นสิ่งสำคัญ ผลกระทบเพราะจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ พร้อมเตือนไปยังบรรดาเหล่านักร้องหากไม่ชัวร์ขอให้เบาๆกันบ้าง

ส่วนมีรายชื่อนายอัครา และนางนฤมล ภิญโญสินวัตน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ส่งไปหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ตนไม่ได้ยิน ซึ่งบอกแล้วว่าหากพูดออกมาจะเป็นผล ซึ่งต้องเข้าใจถึงเพื่อน สส.ด้วย ผู้สื่อข่าวได้ยินมาอย่างไรก็เล่นข่าวกันไป แต่ตนคงมาพูดไม่ได้จริงๆ

เมื่อถามต่อว่าหลังจากนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการพรรคหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามพรรคพลังประชารัฐ.