วิโรจน์ ชี้ 1 ปีรัฐบาล- เพื่อไทย แก้ปัญหายาเสพติดเหลว เหตุสรวนแก้กฎกระทรวง แนะ "แพทองธาร" สาง 3 ปมใหญ่ก่อนปัญหาฝังลึก
วันที่ 12 ก.ย. 67 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม วาระการแถลงนโยบายรัฐบาลของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนั้น
นาย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า การแก้ปัญหายาเสพติดยังไม่เห็นความชัดเจน ทั้งในแง่การจัดสรรงบประมาณและปฏิบัติอย่างครบวงจร ตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว จนถึงรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ไม่มีความชัดเจนในแง่นโยบาย ทั้งนี้รัฐบาลบอกว่าจะแก้ปัญหาภายใน 90 วัน แต่ผ่านมา 84 วัน พบว่าสรวนแก้กฎกระทรวง สั่งการฝ่ายกฎหมายและจ่ายค่าแทน
นายวิโรจน์ อภิปรายด้วยว่า หากรัฐบาลไม่คลาย 3 ปมจะแก้ไม่ได้ แต่ทำให้ปัญหาฝังรากลึกต่อสังคมที่ยากแก้ไข คือ 1.ต้องจับตัวการใหญ่ และยึดทรัพย์ ส่วนการจับตัวเล็กต้องเป็นไปเพื่อขยายผลต่อตัวการใหญ่ ขณะที่ตัวการใหญ่อาจจะจับผู้ครองครองเพื่อเสพมากขึ้น โดยปีที่ผ่านมาพบว่ามีคดีเสพและไว้ในครอบครอง 1.3แสนคดี และเชื่อว่าปี 2567 จับผู้ต้องหารายเล็กรายน้อยเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งในกรณีดังกล่าวทำให้มีผู้ต้องขังคดียาเสพติดเพิ่มมากขึ้น แต่จำนวนนักโทษเด็ดขาดที่เป็นผู้ค้ายามีจำนวนลดลง
“การจับดังกล่าวไม่ทำให้การแพร่ระบาดยาเสพติดลดลง เมื่อผู้เสพ หรือ ครอบครองไว้เพื่อเสพถูกจับมีประวัติอาชญากรรม ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการหาสมัครงาน การจับผู้เสพขังคุกเป็นการส่งเสริมการค้าแบบเครือข่าย และเรือนจำกลายเป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซ และจะทำให้เด็กเดินยากลายเป็นอายุน้อยร้อยเม็ดทันที” นายวิโรจน์ อภิปราย
นายวิโรจน์ อภิปรายด้วยว่า ในการจับดำเนินคดีผู้เสพ หรือครอบครองไว้เพื่อเสพ คิดเป็นมูลค่าเสียหายทางเศษฐกิจ สูงถึง 9 หมื่นถึง 1 แสนล้านบาท มาตรการที่รัฐบาลควรมุ่งเน้น ไม่ใช่จับกุมเพื่อทำรอบคดี แต่ต้องมุ่งสนับสนุนงบประมาณทำงานร่วมกับชุมชน ภาคีเครือข่ายพาผู้เสพฟื้นฟูแบบสมัครใจ
นายวิโรจน์ อภิปรายด้วยว่า 2.เร่งการดำเนินการฟื้นฟูผู้เสพแบบสมัครใจ รวมถึงสนับสนุนด้านงบประมาณให้ชุมชนมีส่วนร่วมติดตามบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาในชุมชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้งบประมาณของสถานฟื้นฟูระยะยาวต่อเนื่อง นอกจากนั้นควรให้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่เพื่อใช้กับผู้บำบัดยาเสพติดด้วย และ 3.เร่งรัดการจับยึดทรัพย์ผู้ค้ารายใหญ่
Advertisement