วันที่ 14 พ.ย. 67 น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงคล้ายนักร้องเรียน ก.อ้างว่า เป็นคณะทำงานดูแลงาน สคบ. จ่ายเงินผ่านพ่อของตนว่า เท่าที่ฟังคลิปเสียงกับนักร้องเรียน ก. และผู้ชายท่านหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาอ้างว่า ได้รับดาบได้รับแสงได้รับอำนาจจากตนสามารถมาควบคุม สคบ. ทำงานใน สคบ.จัดการประชุมต่างๆได้ ขอชี้แจงว่า ตนไม่เคยให้บุคคลดังกล่าวมาเป็นคณะทำงาน หรือรับข้อมูล หรือให้ประสานงานทำงานอะไร ทั้งทางตรงและทางอ้อม
"ในคลิปเสียงยังมีการแอบอ้างว่า มีการส่งเงิน ผ่านทางพ่อ มาถึงตนเอง ขอยืนยันว่าดิฉันทำงานอย่างตรงไปตรงมา ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีมา แม้ว่าจะยังไม่นาน แต่ก็ไม่เคยมีนโยบายในการที่จะให้ใครไปรับสินบนหรือรับเงิน หรือรับผลประโยชน์เข้าตัวเอง นอกจากนี้ในส่วนของพ่อ คนที่ติดตามข่าวสารบ้านเมือง ก็ทราบดีว่าท่านไม่ได้อยู่ในสถานะที่ไม่สามารถมาทำงานการเมือง หรืองานอะไรได้อย่างปกติอยู่แล้วเพราะฉะนั้นถือว่าเป็นข้อมูลเท็จ 100% และตอนนี้ได้ให้ฝ่ายกฎหมาย ตรวจสอบคลิปเสียง และตรวจสอบข้อเท็จจริง รวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อจะไปแจ้งความดำเนินคดี หากพบว่า มีการใช้ชื่อเสียงของดิฉัน ไปกระทำความผิด สร้างความเสียหาย ต่อตัวดิฉันและการทำงาน"
น.ส.จิราพร กล่าวต่อด้วยว่า ถ้ามีการตรวจสอบแล้วพบว่าคดีนี้มีข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ กับกรณีการสืบสวนของ คดีดิไอคอนก็ยินดีที่จะให้ทาง DSI ได้สอบสวน และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป
อย่างไรก็ตามขอชี้แจงว่ากรณีนี้หลายคนอาจจะเข้าใจว่า บุคคลต้องสงสัยนั้น มีความเกี่ยวข้องกับคดีดิไอคอน ซึ่งคดีนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ที่ทาง DSI เป็นเจ้าภาพดำเนินการอยู่ ยืนยันว่า ราเดินหน้าตรวจสอบอย่างเต็มที่ หากเกี่ยวโยงไปที่ใคร ไม่ว่าหน้าไหนก็ไม่เว้น ส่วนกรณีที่มีคลิปเสียงตบหรือรีดทรัพย์ อันนี้เป็นอีกประเด็นหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าจะมีการตบทรัพย์หรือรีบทรัพย์หรือไม่ ก็จะไม่ทำให้การตรวจสอบคดีดิไอคอนเปลี่ยนแปลงไป เราจะพิจารณาตามข้อเท็จจริงตามหลักฐานที่มี
เมื่อถามว่า ส่วนตัวรัฐมนตรีเคยเจอกับ นักร้องเรียน ก. หรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวยืนยันว่าไม่รู้จักนักร้องเรียนดังกล่าวเป็นการส่วนตัว ไม่เคยคุย ไม่เคยประสานงาน ไม่เคยเชิญมาให้ทำงานอะไร ทั้งทางตรงและทางอ้อม และไม่เคยถ่ายรูปด้วย แต่หากจะพบกันในที่สาธารณะแล้วเขามาขอถ่ายรูปตนก็จำไม่ได้
เมื่อถามว่า ได้สอบถามทีมงานหรือไม่ว่ารู้จักผู้หญิงคนดังกล่าวหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า เรื่องนี้ทางนายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแล สคบ. ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จ กรณีเทวดาในสคบ. ก็จะมีการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย เพราะมีการเกี่ยวโยงกัน
นอกจากนี้ทาง DSI มีการตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง จะเป็นประโยชน์ ก็จะยินดีให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
เมื่อถามว่า ตกใจหรือไม่ อยู่ดีๆ ก็มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้อง น.ส.จิราพร กล่าวว่า งงมากกว่า แต่พอเยอะๆ ขึ้นก็รู้สึกเริ่มโมโหเหมือนกัน เพราะความจริงก่อนที่จะมาเป็นรัฐมนตรี ช่วงเป็น สส.ก็ถูกแอบอ้างชื่อเหมือนกัน ไปหาผลประโยชน์ต่างๆ ซึ่งก็มีการป้องปราม และได้มีการชี้แจงให้หลายๆ คนได้ระมัดระวังตัวเอง เมื่อมาเป็นรัฐมนตรีก็เข้าใจได้ว่า เมื่อมีอำนาจหน้าที่มากขึ้น ก็อาจจะมีการแอบอ้างในลักษณะดีขึ้นได้ และที่ผ่านมาก็มีหลายครั้ง ที่มีคนมาให้ข้อมูลให้ตนระมัดระวังตัว ดังนั้นถือเป็นประเด็นที่ตนไม่สามารถที่จะนิ่งนอนใจได้ และไม่สามารถที่จะปล่อยผ่านเพราะกระทบต่อชื่อเสียง และการเชื่อมั่นในการทำงานของตน
ทั้งในฐานะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เราดูแลก็ต้องตรวจสอบให้มีความกระจ่าง หากพบว่ามีการเกี่ยวข้องอย่างไรก็จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด แล้วตอนนี้ให้ทีมทนายกำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ หากรวบรวมได้เรียบร้อยแล้วก็จะมอบอำนาจให้ทนายความไปแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
"มันเป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน เพราะมันก็เกี่ยวข้องกับคดีใหญ่ด้วย การแอบอ้างลักษณะนี้ มันกระทบต่อการทำงานของเราอย่างมาก และการกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน และไม่อยากให้เกิดเรื่องลักษณะแบบนี้ขึ้นอีก"
Advertisement