เคาะแล้ว! เงินหมื่นเฟส 2 คนแก่ 60 ปี รอรับเงินสด ตรุษจีนปีหน้า

เคาะแล้ว! เงินหมื่นเฟส 2 คนแก่ 60 ปี ลงทะเบียนแอปฯทางรัฐไว้ รอรับเงินสด ตรุษจีนปีหน้า คิวต่อไปคนไม่มีสมาร์ทโฟน 

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 พ.ย. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรก หลังจากมีการแต่งตั้งมานานกว่า 2 เดือน 

คอนเทนต์แนะนำ

สรุปคดี "แอม ไซยาไนด์" ศาลตัดสินประหารชีวิต วางยาฆาตกรรมเหยื่อ 15 ราย

จับพิรุธ ทนายตั้ม สัญญาทำแอปฯหวย “พี่อ้อย”เอกสารถูกตัดต่อ?

ส่อง 8 สถิติ "พรีเมียร์ลีก" ก่อนเปิดศึก นัดที่ 12

จากนั้นเวลา 14.00 น. นาย พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แถลงว่า ผลการประชุมมีเรื่องการเติมเงินสู่ระบบดิจิทัล วอลเล็ต เฟส 2 โดยครั้งนี้เราจะเติมเงินให้คนที่เราคิดว่ามีความจำเป็นก่อน เพราะว่าเราอยู่ระหว่างการเตรียมการระบบดิจิทัล วอลเล็ต เพื่อให้คนที่มีความเข้าใจเหล่านี้เข้ามาใช้จริงๆ และสามารถใช้ได้ดี หลังจากเราทดลองระบบเรียบร้อยแล้ว 

แต่ครั้งนี้เราจะมาดูกลุ่มคนที่คิดว่ามีความจำเป็น หลังจากที่ได้ทำโครงการที่หนึ่งไป แล้วคือคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จากที่เรานั่งดูเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ทุอกย่างในช่วงนี้ดีขึ้นจึงตัดสินใจว่าเราจะต้องดำเนินการเฟสนี้ให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น โดยมีจำนวนคนประมาณ 3,000,000 กว่าคน ไม่เกิน 4,000,000 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เรารีบทำได้ทันที 

ส่วนกลุ่มคนที่เหลือเราก็มองว่าอาจจะมีเฟสต่อไปหรือไม่ก็ได้ เพราะเราต้องดูความพร้อมของระบบ น่าจะเป็นปีหน้า ประมาณเดือน เม.ย. –มิ.ย. ปีหน้า เป็นช่วงเวลาที่เราได้ทบทวนและดูว่าจะมีการทบทวนและทำต่อไปหรือไม่ ซึ่งวันนี้คณะกรรมการฯได้มอบนโยบายให้กระทรวงการคลังแล้วว่า ให้มอบเงินกับกลุ่มคนอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 10,000 บาท 

ด้านนาย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า จากการที่ได้หารือ ซึ่งไม่ได้อยู่ในการประชุมครั้งนี้ แต่อยู่ในกรอบภารกิจที่ต้องทำ เราคำนวณว่า เป็นช่วงไตรมาสที่สองของปีหน้า หรือไม่เกินช่วงตรุษจีนปีหน้าจะสามารถเติมเงิน 10,000 บาทให้กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีได้ ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเปราะบาง ซึ่งไม่ใช่ว่าผู้สูงอายุทุกคนจะได้ แต่ต้องเป็นผู้สูงอายุที่มีการลงทะเบียนผ่านแอปฯทางรัฐในช่วงของการทำโครงการฯที่ผ่านมา และมีการตรวจสอบเสร็จครบถ้วน และต้องไม่เป็นกลุ่มที่ได้รับเงิน 10,000 บาทในเฟสแรกไปแล้ว ยืนยันว่าไม่มีได้เงินซ้ำ จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุค่อนข้างลำบาก มีรายได้ไม่เกิน 70,000 และ มีเงินเก็บในบัญชีธนาคารตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยกำหนดกรอบวงเงินไว้ไม่เกิน 4,000,000 ราย ในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่มีสมาร์ทโฟน 

นาย จุลพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการใช้เงินยืนยันว่าเป็นการโอนเงินสดเหมือนเดิม ส่วนกลุ่มของผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน เราก็จะเป็นกลุ่มที่เราไปดำเนินการต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการลงทะเบียนเร็วๆนี้ เชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน หลังจากนั้นถ้ามียอดครบถ้วนแล้ว เราก็จะมาดูว่าเราจะดำเนินการอย่างไรต่อไป