เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 67 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า จากกรณีที่ ยุน ซ็อก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศกฎอัยการศึกฉุกเฉิน โดยอ้างถึงปัญหาความมั่นคงเกี่ยวกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ที่มีกลุ่มฝ่ายค้านในรัฐสภาทำตัวเป็นกองกำลังต่อต้านรัฐ และผู้บัญชาการกองทัพบกเข้าประจำการ ในฐานะผู้บัญชาการกฎอัยการศึกที่อาคารรัฐสภา
หลังจากนั้นไม่นาน หน่วยทหารและตำรวจภายใต้กฎอัยการศึกที่เข้าควบคุมรัฐสภาได้ถอนกำลังออกทั้งหมด และเปิดทางให้บรรดาสมาชิกรัฐสภาได้เข้าประชุมด่วน เพื่อลงมติยับยั้งการใช้อำนาจของประธานาธิบดี
ทั้งนี้สมาชิกรัฐสภาราว 190 คน จากทั้งหมด 300 คน เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว และลงมติเป็นเอกฉันท์ทั้ง 190 เสียง เพื่อสนับสนุนญัตติขัดขวางการประกาศกฎอัยการศึก และเรียกร้องให้ยกเลิกทันที ตามบทบัญญัติภายใต้รัฐธรรมนูญของประเทศที่ว่า กฎอัยการศึกจะต้องถูกยกเลิกเมื่อเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาเรียกร้อง และการใช้อำนาจของทหารและตำรวจตามบทบัญญัติในกฏอัยการศึกจะถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
เหตุดังกล่าว ยุน ซ็อก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จึงจำเป็นต้องยอมถอย และเตรียมยกเลิกกฏดังกล่าวที่ถูกประกาศอย่างไม่คาดคิด
ก่อนหน้านี้ รัฐสภาถูกปิดตาย และทหารได้เข้าไปในอาคารเป็นเวลาสั้นๆ ในขณะที่ผู้ประท้วงหลายร้อยคนรวมตัวกันอยู่ด้านนอก และเผชิญหน้ากับกองกำลังรักษาความปลอดภัย
"เมื่อสักครู่นี้ รัฐสภาได้เรียกร้องให้ยกเลิกภาวะฉุกเฉิน เราจึงได้ถอนทหารที่ประจำการเพื่อปฏิบัติการตามกฎอัยการศึกออกไปแล้ว เราจะยอมรับคำขอของรัฐสภา และยกเลิกกฎอัยการศึกผ่านการประชุมคณะรัฐมนตรี" ยุน ซ็อก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวในการแถลงทางโทรทัศน์เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (02.30 น. ตามเวลาประเทศไทย)
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า คณะรัฐมนตรีของยุน ซ็อก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ลงมติอนุมัติญัตติยกเลิกกฎอัยการศึกแล้ว เหลือแค่ขั้นตอนการประกาศของประธานาธิบดี โดยการกลับลำดังกล่าวทำให้ผู้ประท้วงหน้ารัฐสภาดีใจกันมาก เนื่องจากพวกเขาฝ่าฝืนกฎอัยการศึกที่ประกาศใช้ตลอดคืน
ผู้ประท้วงโบกป้ายและธงชาติเกาหลีใต้ และตะโกนว่า "จับกุม ยุน ซ็อก-ยอล" นอกรัฐสภา ขณะที่บางส่วนโห่ร้องยินดี ซึ่งแสดงให้เห็นได้ชัดว่าประชาชนไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ ยุน ซ็อก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้
ประชาชนรายหนึ่งกล่าวกับ สำนักข่าวเอเอฟพีว่า การตัดสินใจยกเลิกกฎอัยการศึกของ ยุน ซ็อก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ไม่ได้ทำให้เขาพ้นผิด เพราะการกระทำของเขาที่บังคับใช้กฎอัยการศึกตั้งแต่แรก โดยไม่มีเหตุผลอันชอบธรรมถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงในตัวมันเอง และจะปูทางไปสู่การถูกถอดถอนเขาด้วยเรื่องนี้อย่างแน่นอน
Advertisement