วันที่ 11 ธ.ค. 67 ที่พรรคพลังประชารัฐ นาย ไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังประชุมพรรควันนี้ว่า ที่ประชุมพรรคมีมติเห็นด้วย ตามที่ตนในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบ กรณี สส.พลังประชารัฐ 20 คน มีการกระทำอาจฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ และเสนอว่าการกระทำของสมาชิกพรรคทั้ง 20 คน มีเหตุจากแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมือง แตกต่างอย่างสิ้นเชิง กับแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ท่านอื่น เกินกว่าจะแก้ไข ทำความเข้าใจให้เป็นไปแนวทางเดียวกันได้
ซึ่งเหตุดังกล่าวเห็นว่า สส.ทั้ง 20 คนนั้น มีการกระทำลักษณะ ที่มีเหตุร้ายแรงอย่างอื่นตามข้อบังคับ 54 (4) ตนในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบและเลขาธิการพรรคจึงเสนอให้ที่ประชุมมีมติให้สมาชิกภาพของทั้ง 20 คนสิ้นสุดลง ตามข้อบังคับ 54 (5) และววรค 2 และขอให้ที่ประชุมมีมติให้มีการประชุมร่วม ของคณะกรรมการบริหารของพรรคและสส.พรรค พลังประชารัฐ เพื่อพิจารณาลงมติ ตามข้อบังคับที่ 54 (5) และวรรค2 ในวันที่ 12 ธ.ค. เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา ซึ่งที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐวันนี้เป็นการเห็นชอบชั้นที่ 1 แต่ในวันพรุ่งนี้จะต้องมีการลงมติโดยใช้เสียง 3 ใน 4 ของที่ประชุมร่วมกัน ระหว่างคณะกรรมการบริหารและสส.พรรคพลังประชารัฐ
นายไพบูลย์ ระบุว่า โดยการประชุม กรรมการบริหารพรรควันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้เข้าร่วม เนื่องจากไม่สบาย
เมื่อถามว่า เป็นการจากกันด้วยดีใช่หรือไม่ หรือมีการแลกเปลี่ยนเงื่อนไขกับคดีของคนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร ที่ถูกกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ดิน ส.ป.ก. ไร่ภูนับดาว นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรทั้งนั้น เป็นไปตามที่ตนแถลง โดยยืนยันว่าเป็นการจากกันด้วยดี เพราะแนวคิดอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเราพยายามที่จะพูดคุยประสาน เพื่อที่จะให้มาในแนวทางเดียวกัน แต่คิดว่าเมื่อเป็นไปไม่ได้ก็ถือว่าเป็นเหตุที่ร้ายแรงอื่น ซึ่งเป็นไปตามข้อกฎหมายควรจะมีมติให้ สส.ทั้ง 20 คนพ้นจากการเป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐ
เมื่อถามย้ำว่า เป็นการจากกันด้วยดีใช่ นายไพบูลย์ ย้ำว่า ขอให้ผู้สื่อข่าวฟังเอาเอง แต่ความรู้สึกตนนั้นทุกอย่างดำเนินการไปตามกระบวนการ เราพยายามพูดคุยกันแล้ว หากไม่มีอุดมการณ์ร่วมกัน ก็ไม่เป็นไร เมื่อไม่มีก็ต่างฝ่ายต่างรักษาอุดมการณ์ของตัวเองไป ไม่มีปัญหาอะไร
นายไพบูลย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมกรรมการบริหารพรรควันนี้ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่ก็เห็นด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นดำริที่ท่านเห็นชอบอยู่แล้ว ดังนั้นถือว่าเป็นมติของกรรมการบริหารพรรคไปแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมกับ สส. ของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 40 คน โดยต้องขอเสียงมติในที่ประชุม 3 ใน4 ทั้งนี้จะเชิญสส. ทั้ง 20 คน ที่ยังเป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมด้วย เพื่อขอมติในที่ประชุมเพื่อขอมติให้ได้เสียง 3 ใน 4 โดยเราได้มีการแจ้งคนกลุ่มนี้ไปแล้ว และเขาเองก็จะมาร่วมประชุมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสส.กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส มีรวมทั้งสิ้น 25 คน แบ่งเป็น พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 20 คน ได้แก่ 1.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา 2.นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี 3.นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ 4.นายจีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา 5.นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา 6.นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี 7.นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ 8.นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี 9.นายปกรณ์ จีนาคำ สส.แม่ฮ่องสอน 10.นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร
11.นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์สส.กำแพงเพชร 12.นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.ตาก 13.นางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด 14.นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี 15.นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส 16.นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี 17.นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา 18.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา 19.นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ 20.นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส
ส่วนพรรคกล้าธรรม 4 คน 1.นายกฤดิทัช แสงธนโยธิน สส.บัญชีรายชื่อ (เดิมสังกัดพรรคใหม่) 2.นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ สส.บัญชีรายชื่อ (เดิมสังกัดพรรคพลังสังคมใหม่) 3.นายบัญชา เดชเจริญศิริกุล สส.บัญชีรายชื่อ (เดิมสังกัดพรรคท้องที่ไทย) 4.นายปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ (เดิมสังกัดพรรคครูไทยเพื่อประชาชน)
และกลุ่มพรรคเล็ก 1 พรรค คือ นายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่
Advertisement