วันที่ 17 ธ.ค. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติรับเรื่อง 12 เจ้าหน้าที่รัฐ เอื้อประโยชน์ให้ นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นอนพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจไว้ไต่สวนว่า
ส่วนตัวมีความเชื่อมั่นว่า เจ้าหน้าที่รัฐ 12 คน ปฏิบัติตามกฏหมาย ระเบียบและหลักวิชาชีพ ตามหลักสากล ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ ป.ป.ช. รับเรื่องนี้ไว้ไต่สวน เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ การนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการจะทำให้ผู้ที่เข้าไปไต่สวน และยังไม่เคยส่งหลักฐาน จะได้มอบข้อมูลและหลักฐานเข้าสู่กระบวนการ เนื่องจากก่อนหน้านี้ติดในเรื่องของคน เพราะผู้ป่วยจะมีกฎหมายคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค หลังๆ จึงถูกโยงเป็นเรื่องการเมือง จากนี้ก็น่าจะนำนำหลักฐานเข้าสู่กระบวนการของ ป.ป.ช. ได้ดูเหตุผลและข้อมูล เป็นเรื่องที่ดีที่ทุกอย่างจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ทุกคนมีความมั่นใจ และอยากให้ประชาชนมั่นใจว่า ผู้ที่ถูกคุมขัง ประกอบด้วยหลายองค์กร คือราชทัณฑ์ กฎกระทรวงคือโรงพยาบาล และที่คุมขังอื่น ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างรับฟังความเห็นเรื่องสถานที่คุมขังอื่น ในส่วนของการเจ็บป่วยหากได้ดูเวชระเบียน และหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ก็เป็นเรื่องที่ดี ไม่เช่นนั้นจะนำไปพูดในที่อื่นๆ หลักฐานก็ควรนำไปมอบให้ ป.ป.ช.
พร้อมย้ำว่ามีความเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ทุกคน เพราะมีประวัติ และผลงานว่ามีความซื่อสัตย์สุจริต ทำงานตรงไปตรงมา กรมราชทัณฑ์จะไม่มีอคติกับใคร อย่ามองว่าเข้าข้างใคร เป็นการบริหารงานตามกฎหมาย แทบจะไม่ได้ใช้ดุลยพินิจด้วยซ้ำ เพราะกฎหมายได้เขียนไว้ ซึ่งข้อสงสัยว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ จะได้มีหลักฐานทาง การแพทย์และเวชระเบียน ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เคยเห็นหลักฐานดังกล่าวยืนยันว่า มีหลักฐานครบถ้วนทั้งหมด
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเกิดเรื่องผู้ที่ถูกตรวจสอบเป็นเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ก็คงไม่ใช่ ป.ป.ช. คงตรวจสอบ และหากไม่มีมูล ก็คงไม่รับพิจารณาต่อ
ทั้งนี้กังวลหรือไม่ว่าเรื่องนี้จะทำให้ รมว.ยุติธรรม หลุดออกจากตำแหน่งได้ พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่กังวล ตนยึดมั่นในข้อเท็จจริง และหลักกฏหมาย ซึ่งนายทักษิณก็ถูกควบคุมตามกฎหมาย เพียงแต่ไม่สะใจคนส่วนหนึ่ง ขณะที่รายงานของบางหน่วยงานไม่มีการสอบบุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็นเพียงการนำความเห็นมาใช้ ซึ่งหากใช้ความเห็นฝ่ายตรงข้ามมันก็จะปรากฏอย่างนั้น เพราะในปกติการสืบสวนสอบสวนควรจะใช้ประจักษ์พยาน ผู้รู้ ผู้เห็นจริงและผู้อยู่ในเหตุการณ์ และยืนยันว่าโรคที่นายทักษิณป่วย เกินศักยภาพของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถ้ามีใครไม่พอใจอะไรให้นำหลักฐานไปให้ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าข้าราชการจะใส่เกียร์ว่าง เพราะถูกตรวจสอบ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง ตนไม่เคยทำอะไรเพื่อประโยชน์ส่วนตัว จึงอยากให้ข้าราชการทำตามกฏหมาย
หากมีการตรวจสอบกรณีของนายทักษิณเรียบร้อยแล้ว การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศ จะง่ายขึ้นหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ต้องเป็นไปตามกฏหมาย หากใครเห็นว่ากฎหมายไม่ดีต้องมีการแก้ไข ก็ยินดีรับฟัง เหมือนกับกรณีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนที่ตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องการพักโทษทำไมไม่ให้อำนาจรัฐมนตรีพิจารณาแต่ให้เพียงแค่รับทราบ ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงเก่า แต่ยืนยันว่านายทักษิณก็อยู่ในโรงพยาบาลครบตามจำนวน ไม่มีชั่วโมงไหนที่ไม่อยู่
Advertisement