วันที่ 18 ธ.ค.เวลา 20.50 น. บรรยากาศงานเลี้ยงพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ร้านเอิกเกริก ร้านอาหารริมน้ำ ย่านจรัญสนิทวงศ์ ตรงข้ามรัฐสภา ซึ่งพรรคที่มาถึงพรรคแรกคือ พรรคพลังประชารัฐ นำโดยนายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และ สส.พังงา พร้อมด้วยนายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ กรรมการบริหารพรรค และสส.หนองคาย
ขณะที่พรรคไทยสร้างไทย มีนายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรค ที่เดินทางมาถึงก่อนคุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค
โดยงานเลี้ยงพรรคร่วมฝ่ายค้านถือว่า ช้ากว่ากำหนดไป กว่า 3 ชั่วโมง เพราะประชุมสภาที่ยืดเยื้อจากการพิจารณาร่างกฎหมายประชามติ ซึ่งขณะนี้นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ยังเดินทางไม่ถึงร้าน
ทั้งนี้งานเลี้ยงพรรรคร่วมฝ่ายค้านในวันนี้ เป็นการจัดครั้งแรก หลังเปลี่ยนรัฐบาลจากนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งจะมีการพูดคุยถึงทิศทางการทำงานร่วมกันเป็นครั้งแรก รวมถึงการเตรียมพร้อมข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจที่พรรคประชาชน จะให้มีขึ้นในไตรมาสแรกปี 2568
สำหรับเมนูอาหารในวันนี้ มีกับข้าว 9 อย่าง เช่นน้ำพริกโจร ปลากระพงทอดน้ำปลา ต้มยำปลาเก๋าน้ำข้น กุ้งซอสมะขาม ยําไข่เค็ม ไข่เจียว ออส่วนนิ่มหอยนางรม ใบเหลียงคั่วไข่ และหมูสับหนำเลี๊ยบ ส่วนของหวานเป็นบัวลอยเผือกมะพร้าวอ่อน
โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวก่อนเริ่มดินเนอร์พรรคร่วมฝ่ายค้านว่า จะมีการพูดคุยเรื่องการจัดสรรเวลาในการยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ และจะมีการหารือเรื่องการทำงานร่วมกันของพรรคฝ่ายค้าน รวมถึงการเดินหน้าเวทีผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน ที่ก่อนหน้านี้นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้เดินหน้าไว้เราก็จะสานต่อ
เมื่อถามถึงกรณีไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่มีสส.บางคนแสดงจุดยืนทางการเมืองไปยังพรรครัฐบาลแล้ว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องภายในของแต่ละพรรค แต่เราพูดกันในหลักการ และวันนี้จะเห็นได้ว่ามีตัวแทนจากทุกพรรคเข้าร่วมรับประทานอาหารและพูดคุยกัน ส่วนเรื่องกระบวนการภายในแต่ละพรรคจะเป็นอย่างไร พรรคประชาชนไม่สามารถไปก้าวก่ายได้
เมื่อถามว่าข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจจำเป็นต้องแชร์กันหรือไม่ เพราะช่วงหลังพรรคพลังประชารัฐเริ่มมีบทบาทในการติดตามนโยบายรัฐบาล นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า โดยปกติพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการจัดสรรโควตาเวลาในการอภิปราย ส่วนเนื้อหาในการอภิปรายจะไม่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เพราะแต่ละครั้งจะมีการทำการบ้านของตัวเอง
เมื่อถามว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้จะพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ ชินวัตร ใช่หรือไม่ นายณัฐพล กล่าวว่าคงเป็นหลายๆเรื่อง ที่เราทำข้อมูลมาหลายๆทาง ขอฝากไปยังประชาชนและข้าราชการ ถ้ามีข้อมูลอะไรที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือการดำเนินนโยบายของรัฐที่ไม่ถูกต้อง สามารถส่งข้อมูลมายังพรรคประชาชนได้ และยืนยันว่าการอภิปรายในครั้งประชาชนไม่ผิดหวังแน่นอน อยากให้ประชาชนติดตามในไตรมาสแรกของปีหน้าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เมื่อถามว่าการอภิปรายรอบนี้ จะมีเรื่องของวุฒิภาวะความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก็เป็นหนึ่งประเด็นก็จะมีการหยิบยกขึ้นมาหารือในที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านวันนี้ด้วย เพราะเห็นว่าการทำงานของรัฐบาลก็ยังไม่ตอบโจทย์และมีข้อสงสัย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าในฐานะผู้นำฝ่ายค้านมองวุฒิภาวะของนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างไร ซึ่งนายณัฐพงษ์กล่าวว่า นายกฯต้องพิสูจน์ให้เห็น ว่านายกฯตัวจริงคือนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ไม่ใช่คนอื่น และการลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนก็เป็นสิ่งที่นายกฯ ควรจะทำ บางภารกิจสามารถมอบหมายคนอื่นไปได้ ทุกอย่างอยู่ที่การบริหารจัดการ และอีกอย่างที่เป็นหน้าที่ของนายกฯ คือการมีความรับผิดชอบต่อสภา โดยการเข้ามาตอบกระทู้ถามสดในสภา ตนคิดว่าเป็นเรื่องจำเป็นและตารางการประชุมของสภาก็ถูกล็อกไว้แล้วว่าทุกวันพฤหัสจะต้องมีการตอบกระทู้ จึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่ต้องมาตอบ นายกฯสามารถล็อกเวลาล่วงหน้าได้
เมื่อถามว่าการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐจะสามารถไว้วางใจกันได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คิดว่าเป็นเรื่องของความเป็นมืออาชีพ เราใช้วิธีการจัดสรรโควตาเราทำงานผ่านวิป เรามีการพูดคุยกัน ส่วนประเด็นที่จะอภิปรายก็เป็นหน้าที่ของแต่ละพรรค
ส่งนจุดยืนทางการเมืองและนโยบายที่ต่างกันมากๆของแต่ละพรรคจะเป็นอุปสรรคหรือไม่นั้น
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าไม่เป็นอุปสรรค เพราะจะเห็นว่าทุกพรรคมาร่วมทานอาหารตามคำเชิญ ส่วนที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐไม่ได้เดินทางด้วยตัวเอง ก็เป็นเรื่องที่แต่ละคนจะต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ใครจะมาหรือไม่มาก็เป็นเรื่องภายในของพรรค และเชื่อว่าตัวแทนที่ส่งมาจะสามารถประสานงานไปยังพรรคได้ไม่มีปัญหาอะไร สส. ก็ถือเป็นผู้แทนราษฎร
เมื่อถามว่า ที่เคยพูดว่ามีเราไม่มีลุง แต่ตอนนี้มาเป็นพรรคฝ่ายค้านร่วมกัน จะสามารถตรวจสอบรัฐบาลร่วมกันได้ใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การทำงานของฝ่ายค้านกลไกอาจจะแตกต่างกับฝ่ายบริหาร ไม่จำเป็นที่ต้องพูดคุยกันถึงเนื้อหารายละเอียด ว่าจะมีทิศทางในการอภิปรายอย่างไร เพราะแต่ละพรรคก็จะมีจุดยืนทางการเมืองของตัวเอง เพราะฉะนั้นการพูดคุยในวันนี้จะเป็นเรื่องของการจัดสรรเวลา และยืนยันว่าการที่มีลุงมาอยู่กับเราในวันนี้ไม่มีความอึดอัดใจใดๆทั้งสิ้น และการพูดคุยในวันนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อถามว่าจะสามารถฟังคำแนะนำของพลเอกประวิตรได้ใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ มองว่าไม่น่าเกี่ยวข้องกับการรับฟังหรือไม่รับฟัง เพราะเราทำงานกันผ่านวิป ส่วนเนื้อหาในการอภิปรายแต่ละพรรคก็เป็นคนเตรียมเนื้อหาของตัวเอง
Advertisement