วันที่ 21 ธ.ค. 67 ที่อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรมปีที่ 2” โดยกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และสถาบันการเงินชั้นนำกว่า 30 แห่ง เพื่อเปิดเวทีใหญ่ผ่อนคลายหนี้ ให้ประชาชนเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้แก่ลูกหนี้
สำหรับภายในงานมีการเปิดให้ลงทะเบียนผู้เข้าร่วมแก้ไขหนี้สิน การไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง และไกล่เกลี่ยหลังศาลมีคำพิพากษา พร้อมเปิดศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพากษาภาคประชาชนเพื่อให้ประชาชนเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ และสร้างความเชื่อมั่นว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนได้อย่างยั่งยืน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวเปิดงานว่า ความความผาสุกของประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชน และรัฐบาล มีความปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง โดยขณะนี้ประชาชนมีปัญหาหนี้สินหรือที่เรียกว่า หนี้สินเรื้อรัง และหนี้สินยั่งยืน เป็นการส่งมอบมรดกของความยากจนจากรุ่นสู่รุ่น จนนำไปสู่ความขัดแย้ง และสร้างความเดือดร้อน สร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างรุนแรง แม้ประชาชนที่เป็นหนี้จะดิ้นรนขยันขันแข็ง แต่เงินที่ได้รับกลับไม่เพียงพอกับการใช้หนี้ และค่าของชีพที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จนทำให้หนี้เก่าก็ไม่ได้ใช้ทำระ และทำให้ขาดการชำระหนี้ ก็จะเกิดดอกเบี้ย และการเกิดเบี้ยปรับ
อีกทั้ง เงินที่ชำระไป ก็จะเอาไปชำระดอกเบี้ยปรับ และเงินที่ชำระไปนั้น ก็จะไม่ถึงเงินต้น ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้ จึงเรียกว่าเป็นหนี้ที่เรื้อรัง และลูกหนี้ที่เป็นบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลหากปล่อยไว้ ก็จะนำไปสู่ภาวะการถูกดำเนินคดี และบังคับคดี
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้ประกาศนโยบายว่า เรื่องหนี้เป็นความท้าทาย โดยความท้าทายของรัฐบาล คือจะต้องสร้างความหวัง สร้างโอกาส และสร้างความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลประกาศไว้ คือ การแก้หนี้ การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน รวมทั้งการผลักดันให้ปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ในระบบ และลูกหนี้นอกระบบ ภายใต้ปรัชญาวินัยการเงินการคลังที่ไม่ให้เกิดภาวะทางจริยธรรม และเรื่องหนี้เป็นเรื่องที่หลักสิทธิมนุษยชนได้คุ้มครองไว้ ที่บุคคลธรรมดาจะต้องไม่รับโทษทางอาญาในเรื่องของการชำระหนี้ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้เสนอยกเลิกความผิดเช็ค ที่เป็นโทษทางอาญา
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวทิ้งท้ายว่า เราเชื่อมั่นว่า เมื่อเราได้ดำเนินการแก้หนี้ อะไรที่ไม่เป็นธรรม ก็จะนำไปสู่กระบวนการการแก้กฎหมาย และหวังว่าหนทางนี้ จะปลดโซ่ตรวนความทุกข์ของประชาชน และสร้างความสุข ความเจริญ และศักยภาพของคนไทย ให้มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดสังคมโลก และมีความผาสุกอย่างยั่งยืน
วันนี้กระทรวงยุติธรรม การที่รัฐบาลได้ประกาศหนี้สินเป็นวาระแห่งชาติ ต้องเร่งรัดแก้ปัญหาซึ่งต้องยอมรับว่าขณะนี้ปริมาณหนี้ครัวเรือนซึ่งเป็นทั้งหนี้ในและนอกระบบมีปริมาณมากและประชาชนมีความเดือดร้อน กระทรวงยุติธรรมจึงจัดมหกรรมแก้หนี้สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรมปีที่ 2 เพราะปีแรกได้รับการยอมรับและประสบความสำเร็จจึงทำให้มีปี 2
ซึ่งเป็นปัญหาหนี้สินเป็นปัญหาที่จะต้องทำให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ได้รับความเป็นธรรม จึงจะยกระดับวิถีแห่งความเป็นธรรมเพิ่มขึ้น หนี้นอกระบบยังมีอยู่ดังนั้นการแก้หนี้จึงจะใช้แนวทางสัญญาที่เป็นธรรม เช่นดอกเบี้ยถ้าเกินกฎหมายกำหนดถือว่าดอกเบี้ยเป็นโมฆะ จึงหวังว่าจะแก้หนี้ทุกมิติที่เป็นหนี้ครัวเรือนได้
นอกจากนี้จากการสำรวจพบว่าคนที่อายุน้อยก็เป็นหนี้ก็ กยศ.เกือบ 7,000,000 คน และยังมีผู้ค้ำซึ่งถือว่าเป็นปัญหา ในวันนี้มีผู้จัดการ กยศ. มาเพื่อร่วมโครงสร้างหนี้ หวังว่าจะสามารถปรับโครงสร้างหนี้ให้หมด เชื่อว่าลดภาระหนี้ กยศ. ได้จะทำให้คนหนุ่มสาวมีพลังสร้างจีดีพีให้ประเทศได้ และมองว่าในรัฐบาลนี้มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะแก้ปัญหาได้สำเร็จ
Advertisement