วันนี้ (24ธ.ค.67) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความพร้อมของกระทรวง พม. สำหรับผู้สูงอายุที่จะได้รับเงิน 10,000 บาท จากโครงการของรัฐบาล ว่า ในส่วนของกระทรวง พม. มีฐานข้อมูลของผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ทราบว่าในเงื่อนไขของกระทรวงการคลังที่จะมีการพิจารณากันในที่ประชุม ครม.วันเดียวกันนี้ คือเรามีผู้สูงอายุประมาณอยู่ที่ 13.5 ล้านคน ซึ่งกติกาของกระทรวงการคลังในครั้งนี้ จะมีเงื่อนไขบางประการ ทำให้จำนวนผู้สูงอายุที่จะได้รับเงิน 10,000 บาท มีจำนวนไม่ถึง 13.5 ล้านคน เพราะว่ามีกลุ่มพี่น้องคนพิการรวมอยู่ ซึ่งบางคนได้รับเงินในรอบแรกไปแล้วก็จะไม่มีสิทธิในรอบนี้ หรือว่าถ้าหากคนที่มีรายได้ทางอื่นเกินเกณฑ์ที่ทางกระทรวงการคลังกำหนดไว้ ซึ่งในที่ประชุม ครม. วันเดียวกันนี้ ตนจะดูว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้าง แล้วจะรีบแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ
อย่างไรก็ตาม สำหรับพี่น้องผู้สูงอายุท่านใดรู้ตัวว่าตนเองมีสิทธิรับเงิน 10,000 บาทในรอบนี้ อยากขอให้เตรียมบัญชีธนาคาร หรือว่าการขึ้นบัญชีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การตรวจสอบรายละเอียดของตนเองให้ถูกต้องเรียบร้อย ยกตัวอย่าง เช่น กลุ่มเปราะบางรอบแรกที่ไม่ได้รับสิทธิ ซึ่งมีหลายรายที่ไม่ได้รับเพราะไม่ได้ผูกบัญชีธนาคารหรือชื่อไม่ตรงกัน จึงขอให้พี่น้องประชาชนประชาชนตรวจสอบรายละเอียดของตนเองให้ถูกต้องเสียก่อน
สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุที่กำลังจะได้รับเงินนั้น ขอให้ระมัดระวังมิจฉาชีพ ซึ่งผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มักจะถูกมิจฉาชีพหลอก ถ้ามีโทรศัพท์เบอร์แปลกเข้ามา ซึ่งสมัยนี้มีกลวิธีหลายอย่างทั้งการส่งคิวอาร์โค้ด เอกสารหลอกว่าเป็นสถาบันทางการเงินหรือส่วนราชการ และเมื่อเราสแกนไปแล้วก็อาจจะถูกดูดเงินจากบัญชี รวมถึงไม่รับสายของคนแปลกหน้า เพราะว่าบางทีเขาอาจจะดึงเวลาให้ท่านพูดสายกับเขานานๆ แล้วอัดเสียงของท่าน เพราะว่าปัจจุบันนี้โทรศัพท์บางระบบต้องมีการยืนยันด้วยเสียงผ่านระบบโทรศัพท์ ดังนั้นถ้าหากว่าท่านไม่มั่นใจ ขอให้วางสายและรีบพูดคุยกับลูกหลานหรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะว่าเมื่อผู้สูงอายุได้รับเงิน 10,000 บาท ย่อมมีมิจฉาชีพเตรียมที่จะรอหลอกเอาเงินของผู้สูงอายุ
Advertisement