นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กล่าวปราศรัยเดือดระหว่างช่วยผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย หาเสียงเลือกตั้ง นายกอบจ.ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาบางช่วงพูดถึงการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และประเด็นเรื่องว้าแดง และถูกมองมีอำนาจเหนือนายกรัฐมนตรีได้ ว่า ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ท่านปราศรัยบนเวทีหาเสียงในบรรยากาศที่พี่น้องประชาชนแสดงความรู้สึกได้รับผลกระทบจากปัญหาต่างๆ ทั้งเรื่องปัญหายาเสพติด และโดยเฉพาะเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้นการที่จะพูดให้ชัดว่าท่านคิดอย่างไร ควรมีมาตรการแบบไหน มันสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้คน
ส่วนการจะใช้อำนาจใดๆ ต้องใช้โดยรัฐบาลอยู่แล้ว เชื่อว่ากลไกรัฐของแต่ละประเทศก็มีการประสานงานเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
“ผมว่าประชาชนที่เขาได้ยิน เขาดีใจนะครับ เขาเกิดความหวัง เขาคงไม่ได้หลับตานึกภาพว่า นายกฯ ทักษิณจะแต่งชุดคาวบอย ขี่ม้าพกปืน บุกเข้าไปจับพวกคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศไหน แต่เขาคาดหวังว่า อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งมีความใกล้ชิดอย่างยิ่งกับนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเห็นปัญหานี้ ก็เชื่อว่านายกรัฐมนตรี และกลไกรัฐ ก็จะเห็นปัญหาในมิติหรือในน้ำหนักแบบเดียวกัน เขาคาดหวังอย่างนั้น ”
นายณัฐวุฒิ ยังระบุว่า ผมยืนอยู่ด้านหลังตรงเวทีทุกเวทีที่ท่านนายกฯ ทักษิณปราศรัย ผมเห็นแววตา เห็นอาการคน เขาขานรับ ถามใจคนไทยวันนี้ก็ได้ ว่าถ้าจะมีการจัดการปัญหาคอลเซ็นเตอร์อย่างเด็ดขาดชัดเจน เป็นความสุขร่วมกัน เป็นข่าวดีรับปีใหม่ไหม ผมเชื่อว่าเป็นแบบนั้น “ทำโดยรัฐบาลแน่ๆ ไม่ใช่ท่านนายกฯทักษิณจะเป็นคาวบอย ”
ส่วนจะเป็นแบบรัฐบาลพ่อเลี้ยงหรือเปล่า นายณัฐวุฒิ ระบุว่า อันนั้นเป็นฉายาของสื่อมวลชน ซึ่งนายกฯ หรือว่าคนในรัฐบาลไม่ได้เกรี้ยวกราด ไม่ได้ออกมามีวิวาทะใดๆ เคารพหน้าที่กัน เห็นท่านนายกฯทักษิณบอกว่าหากรัฐบาลนี้แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ปีหน้าคนไทยจะได้เป็นพ่อเลี้ยงกันหมด ส่วน นายกฯแพทองธาร ท่านก็บอกว่ามีพ่อเป็นนายกฯ ที่มีประสบการณ์มีความสามารถ และส่วนตัวผมเห็นว่าท่านนายกฯทักษิณเป็นคนระดับโลก จึงไม่แปลกอะไรถ้าท่านจะคอยให้คำปรึกษา
เมื่อถามว่าประเด็นที่นายทักษิณพูดจะกลายเป็นประเด็นที่ถูกนำมาเชื่อมโยงว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายณัฐวุฒิ ระบุว่าอยากให้มองที่ ประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ให้มองที่ความต้องการของประชาชนก่อน รัฐบาลนี้ส่งสัญญาณชัดว่าปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปัญหายาเสพติด ต้องจัดการอย่างเด็ดขาด
“ เมื่อนายกฯทักษิณ ท่านพูดด้วยอีกเสียงหนึ่ง มันก็เน้นย้ำว่าทุกองคาพยพที่เกี่ยวข้องกับอำนาจรัฐนี้ เห็นปัญหาเดียวกัน และตอบโจทย์ประชาชน มันคงไม่ใช่เรื่องว่าใครจะไปครอบงำ แล้วก็ทำให้ต้องยุบพรรคการเมืองกันอีก ในเมื่อเวลานี้สิ่งที่ครอบงำประชาชนอยู่ คือขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ที่ผมใช้คำว่าครอบงำเพราะว่ามันเพียงแค่การโทรศัพท์ เพียงแค่การวิดีโอคอล มันสามารถหลอกคนได้เป็นแสน เป็นล้านบาท ดังนั้นรัฐบาลแสดงเจตนาชัดเจนที่จะจัดการคนพวกนี้ ขบวนการครอบงำสังคมไทยแบบนี้ ผมว่าประชาชนส่วนใหญ่เขาเอาด้วย ”
นายณัฐวุฒิ ยังระบุว่า เท่าที่ผมได้ทำงานกับท่านนายกฯแพทองธาร ท่านไม่ปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านวันๆ แน่ แล้วหากหน่วยงานราชการใดที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบ ไม่ขานรับนโยบายในการจัดการเรื่องนี้ ผมว่ามีปัญหาแน่ๆ เพราะนี่คือการแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างตรงไปตรงมา
Advertisement