น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเจรจากับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา ประกาศปรับขึ้นภาษีตอบโต้ประเทศไทย โดย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีบอกว่าได้คุยกับคนใกล้ชิดของโดนัลด์ทรัมป์ไปหลายคนแล้วว่า นายทักษิณ ได้คุยไปหลายคนแล้วแต่เป็นการคุยแบบไม่เป็นทางการ อันนี้ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างหนึ่ง เพราะการคุยกับคนที่ไม่ได้มีตำแหน่งโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี ก็จะสามารถรวบรวมความคิดเห็นได้ก่อน เพราะทางฝั่งอเมริกาก็อยากได้ความคิดเห็นจากทางไทยเช่นกัน ซึ่งเป็นการคุยกันนอกรอบว่าจะประมาณไหนที่จะสามารถ support ซึ่งกันและกันได้ แต่ในส่วนของทางการ จะมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่จะเดินทางไปคุยก่อนในวันที่ 23 เมษายนนี้
เมื่อถามว่าจากการเตรียมความพร้อมของรัฐบาลไทยพูดได้เลยหรือไม่ว่าประเทศไทยจะได้รับข่าวดี น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คิดว่าข้อที่เราจะไปเจรจาต่อรอง ค่อนข้างมีความแข็งแรงพอสมควร และมั่นใจว่าจะไปในทิศทางบวกๆ กลับทั้ง 2 ประเทศ ต้องคุยเราเป็นประเทศที่จะต้องคุยกันอย่างแฟร์ๆ เราก็สามารถให้ประโยชน์กับเขาได้เช่นกัน และเขาก็ให้ประโยชน์กับเราได้เช่นกันจึงอยากให้คุยกันในแนวนั้น เพราะจริงๆ แล้วไทยกับอเมริกาก็มีความสัมพันธ์ที่ดีมายาวนาน น่าจะคุยแล้วเกิดผลดี
เมื่อถามว่า เมื่อถามว่าจะใช้อะไรเป็นแต้มต่อในการเจรจา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็จะต้องเป็นเรื่องการค้า แต่ในรายละเอียดขอให้นายพิชัยเป็นคนแถลง เพราะหลายอย่างที่พูดคุย ต้องพูดคุยเป็นการภายในก่อน แล้วค่อยแถลงต่อสื่อมวลชน และแน่นอนว่าเราต้องดูผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน ยืนยันจะไม่ให้เสียเปรียบแน่นอน ซึ่งตนให้ความสำคัญและเน้นย้ำตรงนี้
เมื่อถามว่า นายพิชัย จะไปคุยเจรจากับบุคคลของสหรัฐในระดับใด นายกรัฐมนตรี เป็นการเจรจาในระดับรัฐมนตรีด้วยกัน แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นท่านใดต้องรอการยืนยันอีกครั้ง เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีจะมีโอกาสต่อสายตรงคุยกับโดนัลด์ทรัมป์ด้วยตัวเองหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ถ้าถามว่าได้ไหมในเหตุการณ์ปกติ จริงๆแล้วได้ แต่สถานการณ์ขณะนี้ทุกประเทศต้องเข้าคิวเพื่อที่จะคุยเราก็ไปตามขั้นตอน แต่อย่างที่บอกมีหลายๆทางที่สามารถคุยได้ ซึ่งตนเองก็มีการพูดคุยเช่นกัน แต่เป็นการคุยแบบไม่เป็นทางการ อะไรที่เป็น connection สามารถคุยได้ก็จะทำ
เมื่อถามว่าขณะนี้มีมาตรการอะไรที่จะออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งนำเข้าและส่งออกซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องนี้เน้นเลย การช่วยผู้ประกอบการไทยตรงนี้เน้นเลย นอกจากการติดต่อกับอเมริกาแล้ว ตนยังได้มีการพูดคุยกับทีมทำงาน โดยจะมีการสนับสนุนเอกชนในการลงทุนในต่างประเทศด้วยเพราะที่ผ่านมา ยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในเรื่องนี้ตอนนี้ก็จะทำให้ชัดเจนขึ้น ขอให้เป็นรูปเป็นร่างก่อนแล้วจะมาชี้แจงอีกครั้ง แต่วันนี้ที่ตั้งใจสื่อสารกับทีมงานและทีมงานก็เห็นด้วย คือภาคเอกชนที่จะเดินทางไปต่างประเทศก็ไปด้วยตนเองแต่หากได้รับการสนับสนุนอาจจะยิ่งใหญ่กว่าเดิมและทำได้ดีกว่าเดิมไม่ต้องเสี่ยงเท่าเดิม ซึ่งตนเคยอยู่ภาคเอกชนมาถ้าได้การ support จากภาครัฐ คงเป็นความร่วมมือที่จะทำประโยชน์ให้กับประเทศมากมาย ก็จะเดินหน้าแผนนี้ต่อ
เมื่อถามว่าช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสคุยกับคุณพ่อ คุณพ่อได้ให้คำแนะนำหรือคุยเรื่องอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จริงๆแล้วเป็นการอัพเดท เพราะไม่ได้เจอท่านเลยตนเองก็ไม่ค่อยมีเวลา จึงได้เจอกันที่จังหวัดเชียงใหม่ รีบขึ้นไปนั่งรถ ด้วยการให้ลูกไปนั่งอีกคัน เพราะกลัวว่าจะไม่ได้คุย พอได้คุยท่านก็อัพเดทเรื่องของอเมริกาว่าได้คุยกับหลายคน รวมถึงทิศทางว่าจะไปทิศทางไหนบ้าง เพราะตั้งแต่ตอนเด็กๆ ประมาณอายุ 10 ขวบกว่า ตนได้พบกับครอบครัว และลูกๆ ของทรัมป์ เป็นการรับประทานอาหารร่วมกันที่ประเทศไทย นายทักษิณได้ทราบแนวทางของทรัมป์ว่าเป็นแนวนักธุรกิจ ก็จะเป็นประมาณนี้ เชื่อว่าสามารถคุยด้วยได้อยู่แล้ว และอะไรบ้างที่จะเป็นประโยชน์ทั้งเขาและเราก็ไม่อยากเสียประโยชน์ ของเขาเช่นกัน เขาพยายามที่จะวางว่ายังมีประเทศใหญ่ๆอีกมากมายที่ดีกับเขาโดยตรง เขาจึงพยายามให้ทุกประเทศแฟร์ ซึ่งก็เป็นการพูดคุยแนวทางว่าจะประมาณไหนบ้าง ก็มีการปรึกษากันเป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามว่ารัฐบาลได้มีการประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับไทยจากการตั้งกำแพงภาษี ของสหรัฐอเมริกาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จริงๆแล้วต้องมีการปรับตัว เพราะภาษีต่างๆยังไม่ได้มีการปรับปรุงนำมาใช้ แต่ถูกดึงทางด้านนั้นด้านนี้ ทำให้ออกมาเป็นตัวเลข ที่ยังไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งบางอันเราอาจจะได้เปรียบขึ้นก็ได้ หรือประโยชน์อาจจะน้อยลงบ้างต้องเกลี่ยทั้งกระดาน ขอให้ดูในรายละเอียดก่อน ตนก็เป็นนักธุรกิจมาก่อนเชื่อว่าคงไม่อยากมีใครเสียผลประโยชน์ แต่เราพยายามจะคุยให้เราแข็งแรง ในการต่อรองและเจรจา ขอให้มั่นใจกับนักลงทุนว่ารัฐบาลดูเรื่องนี้อย่างเต็มที่
ส่วนจุดแข็งของไทยที่จะนำไปเจรจานั้นนายกรัฐมนตรีมองว่า เรามี จุดแข็งเยอะแยะสินค้ามากมายที่เราส่งออก จริงๆแล้วสินค้าเรามีราคาดีหลายอย่าง เอาเป็นว่ามีหลายสาขาไม่ใช่เฉพาะสินค้าเกษตร แต่ในทุกรายละเอียด ได้เคยถูกนำมากางแล้วตั้งแต่ก่อนที่โดนัลด์ทรัมป์จะขึ้นภาษี
เมื่อถามว่าจะเจรจาทั้งกระดานหรือเป็น เฉพาะรายสินค้า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รายละเอียดเรื่องนี้ขอให้นายพิชัยมาชี้แจงว่าได้คุยไปกี่หัวข้อแล้ว
Advertisement