เวลา 06.45 น. (10 ก.พ. 2568) ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน หลังประชาชนเมียนมา ออกมาประท้วงไทยที่ตัดไฟฟ้า งดส่งน้ำมัน และตัดอินเตอร์เน็ต ว่า ขณะนี้ 3 ส่วน คือ กองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ประสานการทำงานกันได้ดี ส่วนเหตุประท้วงตอนแรกตามข่าวจะมีคนจำนวนมาก แต่มาจริงไม่มาก การประท้วงเป็นเรื่องของเขาที่จะแสดงความไม่พอใจแต่ไม่สามารถกดดันรัฐบาลไทยได้ เพราะรัฐบาลทำไปเพื่อแก้ปัญหาให้กับคนไทย เป็นเรื่องที่เขาต้องไปเคลียร์กับรัฐบาลเมียนมา เราทำครั้งนี้เพื่อให้จะให้เขาดำเนินการในการขับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ออกจากพื้นที่ และเรื่องชายแดนในวันนี้จะมีคำสั่งเรียกคนที่มีข้อกล่าวหา ให้ออกจากพื้นที่
ส่วนการปิดชายแดนไม่รับสินค้าไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาต้องไปไตร่ตรองเพราะต้องพึ่งสินค้าอุปโภค บริโภค หากไม่มีอาหารต้องดูแลตัวเอง เรายืนยันมาตรการของไทยและยึดปัญหาของประเทศไทย เป็นหลัก ต้องจัดการเรื่องนี้ให้ได้ผลเด็ดขาดที่สุด
นายภูมิธรรม กล่าวว่า จะเดินทางไปพญาตองซู วันที่ 12 ก.พ. 2568 จากนั้นวันที่ 16 ก.พ. 2568 จะเดินทางไปปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจอะไร ส่วนจะไปพบและพูดคุยกับใครบ้างนั้นยังไม่ได้กำหนดรายละเอียด ทั้งนี้การซีลชายแดนครอบคลุมอยู่แล้ว ซึ่งการประกาศตัดไฟและอินเตอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุมไปที่จุดอื่น
ผู้สื่อข่าวถามว่าช่วงเวลานี้มีการลักลอบขนน้ำมันจากไทยไปขายในเมียนมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ทางกิจการชายแดน ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และพื้นที่ ที่ซีลชายแดน 51 อำเภอได้ทำการตรวจ และคนที่มีส่วนร่วมจะถูกข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ด้วย
ส่วนมาตรการที่ห้ามนำแกลลอนมาเติมน้ำมันกลับที่ จ.เชียงราย จะดำเนินการมาตรการนี้กับพื้นที่อื่นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากประกาศต้องทำทุกที่ตามแนวชายแดน แต่ซีเรียสที่สุดเป็นพื้นที่ที่มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขณะนี้ประกาศ 5 จุดหลักและสามารถขยายได้หากพบจุดใดเพิ่ม
ส่วนกรณีที่กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธพญาตองซูประกาศให้คนจีน ออกจากพื้นที่เพราะทำให้คนเมียนมาเดือดร้อน จะส่งผลกระทบกับคนไทยในเมียนมาหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่าไม่เกี่ยวกับเรา เขามีปัญหากับคนจีนเป็นเรื่องของเขาเนื่องจากเป็นอธิปไตยของประเทศเขา
Advertisement