วันนี้ (11ก.พ.68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปศึกษาแก้กฎการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนา และช่วงเวลา 14.00-17.00 น. ว่า นายกฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานเกี่ยวข้องไปดู ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อถามว่า แนวโน้มเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ก็เป็นตามที่นายกฯ ให้ข่าว เราต้องไปดูว่าในช่วงเวลา 14.00-17.00 น. ถ้าเทียบกันแล้วก่อนมีหรือไม่มีกฎนี้ ได้ผลอะไร อย่างไร ซึ่งนายกฯ ก็บอกอีกว่าสิ่งที่ควรคำนึงถึงคือการเข้าถึงมากกว่า ถ้าเราควบคุมการขายได้ เด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ต้องห้ามจำหน่ายสุรา ก็ต้องไปควบคุมตรงนั้นมากกว่า ซึ่งฟังดูก็มีเหตุผล และตนก็ต้องดูว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ รายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศ และที่สำคัญให้คนมีงานทำ เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจ เราจะทำอย่างไร โดยเรื่องนี้ก็เข้ามาอยู่ในเรื่องของกรมการปกครอง และโซนนิ่งต่างๆ ที่ต้องไปดูภาพรวม
ส่วนแนวโน้มจะขายได้อย่างอิสระ หรือเปิดเป็นโซนนิ่งนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ก็จะมีการหารือกัน เรื่องโซนนิ่งเป็นกฎหมายเก่า ไม่รู้กี่ปีแล้ว ก็ต้องมีการปรับ แต่ถ้าปรับโซนนิ่งก็ต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ. ด้วย ถือว่าวันนี้นายกฯ ให้ข้อสั่งการมาแล้ว เราก็ไปทำสรุปว่าผลกระทบจะมีอะไร และการแก้ไขต้องทำอย่างไร ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องแก้ไข พ.ร.บ. ก็ถือว่าคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ จะได้เป็นเอกภาพ ก็ให้แต่ละหน่วยงานไปจัดทำข้อเสนอมา แล้วมีการพิจารณากันก่อนช่วงสงกรานต์
เมื่อถามว่า ทางมหาดไทยเป็นห่วงอะไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเรากำกับดูแลไม่ให้เยาวชนเข้าถึง หรือคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้าถึง มีการควบคุมการใช้กฎหมายเต็มที่ หรือดื่มไม่ขับ และถ้ามีการปรับแก้กฎหมายรอบนี้ ก็ต้องแก้บทลงโทษให้รุนแรงมากขึ้น และถ้าตรวจวัดแอลกอฮอล์ พบในช่วงกลางวัน ก็ต้องมีบทรุนแรงที่มากขึ้น เราใช้วิธีควบคุมให้มากขึ้น
Advertisement