นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรรคก้าวไกล หนึ่งใน 44 สส. ที่ถูกกล่าวหาว่าผิดจริยธรรมร้ายแรงในกรณีร่วมลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โพสต์ข้อความผ่านทางเพจ Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ว่า ปปช. แจ้งว่าข้อกล่าวหาต่อดิฉันและเพื่อน สส.ก้าวไกลรวม 44 คนมีมูล เลยขอตั้งคำถามซัก 4-5 ข้อดังนี้
1. การประกันตัวผู้ต้องหา #คดี112 จะทำได้ศาลต้องเป็นผู้อนุมัติ นั่นหมายถึงศาลสมรู้ร่วมคิดกับดิฉันเซาะกร่อนบ่อนทำลายและล้มล้างการปกครองใช่หรือไม่
แล้วปปช.ส่งหมายเรียกให้ศาลมารับทราบข้อกล่าวหาหรือยังยังมีนักวิชาการหลายๆ ท่านไปร่วมประกันตัวเพื่อให้ลูกศิษย์ได้กลับมาเรียนหนังสือในระหว่างต่อสู้คดีด้วย พวกเขามีความผิดด้วยหรือไม่
2. อำนาจหน้าที่เสนอกฎหมายใหม่ แก้ไขกฎหมายเก่าที่ล้าสมัยยังเป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่
3. มีบทบัญญัติหรือข้อห้ามใดบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญว่าห้ามเสนอแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 และในอดีตก็เคยมีการแก้ไขมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง
4. กกต.เป็นผู้อนุญาตให้ใช้นโยบายแก้ไขมาตรา 112 เป็น 1 ใน 300 นโยบายหาเสียงของพรรคก้าวไกล แสดงว่า กกต. ก็สุมหัวร่วมทำความผิดนี้ด้วยหรือไม่ ทำไมไม่เรียก กกต. ไปรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมๆ กัน
5. ปปช.มีมโนธรรมสำนึกในหัวใจบ้างหรือไม่ หรือก็พอจะมีแต่ไม่มีความกล้าหาญพอจะยืนยันรักษาหลักการที่ถูกต้องให้กับสังคมนี้ได้
#เห็นคำขวัญบันทัดสุดท้ายแล้วอยากอาเจียน
โดยก่อนหน้านี้ นายรังสิมัน โรม สส.พรรคประชาชน อดีตพรรคก้าวไกล โพสต์เฟสบุ๊ค หลังได้รับหนังสือที่ลงนามโดย นายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานคณะกรรมการไต่สวน ให้ไปชี้แจง ต่อคณะกรรมการไต่สวน กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำการอันเป็นการจงใจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและนำหลักฐานไปประกอบการชี้แจง หลังคณะกรรมการไต่สวนได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงและพิจารณาแล้วเห็นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสนับสนุนว่าข้อกล่าวหามีมูลความผิด
โดย นายรังสิมัน กล่าวว่า ไม่สามารถเข้าใจได้ว่า การเข้าชื่อเสนอเพื่อแก้กฎหมาย มันจะเป็นความผิดได้อย่างไร ในเมื่ออำนาจนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของ สส. รวมถึงก็ไม่มีบทบัญญัติใดๆ แห่งกฎหมายที่ระบุว่าการเข้าชื่อเสนอเพื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จะไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ การหาเสียงของพวกเราอดีตพรรคก้าวไกล ก็มีการส่งให้กับคณะกรรมการเลือกตั้งอีกด้วย ยืนยันในการทำหน้าที่ของพวกเราว่าไม่มีทางที่จะผิดต่อมาตรฐานจริยธรรมอย่างแน่นอน
การได้เห็น ป.ป.ช. ขยันขันแข็งในการรวบรวมข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีกับ สส. ทั้ง 44 คน ท่ามกลางข้อครหาของ ป.ป.ช. ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องวิ่งเต้นให้หลุดพ้นจากการถูกร้องถอดถอน ในกรณีที่เป็นข่าวล่าสุด มันจึงเป็นเรื่องที่ตลกร้ายต่อพวกเราจริงๆว่าองค์กรอย่าง ป.ป.ช. ที่มีชนักติดหลังแบบนี้ มีข้อครหาที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดจริยธรรม จะเข้ามาตรวจสอบนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งและใช้อำนาจหน้าที่นั้น เพื่อแก้ไขกฎหมายได้อย่างไร
ยังไม่นับว่าพวกเรา สส. ฝ่ายค้านที่ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบบรรดาผู้มีอำนาจทั้งหลาย ได้เคยร้องหลากหลายกรณีไปยัง ป.ป.ช. กลับพบว่ามีความคืบหน้าน้อยมาก ขณะที่คดีที่เกิดขึ้นต่อพวกเรากลับรวดเร็วปานดังกามนิตหนุ่ม ได้แต่สงสัยว่ามาตรฐานของ ป.ป.ช. นั้นเป็นอย่างไรกันแน่
สุดท้ายนี้ผมได้รับหนังสือฉบับนี้ใน วันมาฆบูชา ไม่แน่ใจว่าเป็นเหตุบังเอิญหรือไม่ และหลังจากนั้น นายสุชาติ ก็ได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นประธาน ป.ป.ช. ก็ขอแสดงความยินดีด้วย หากคดีนี้มีความคืบหน้าอย่างไรจะได้แจ้งให้กับพี่น้องประชาชนได้ทราบกันอีกที ส่วนตัวทราบดีว่าเวลาของตนคงจะมีอีกไม่มาก ระหว่างนี้ก็คงจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่
Advertisement