พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์หลังจากที่สมาชิกวุฒิสภา นำโดยประธานและรองประธานวุฒิสภา แถลงถึงการรับเรื่องร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้ง วุฒิสภา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตั้งเป็นเรื่องสอบสวนและอยู่ในระหว่างการสอบสวน หากมีความผิดทางอาญาอื่นที่มีลักษณะการกระทำเป็นกระบวนการ มีผลกระทบต่อสังคม เป็นผู้ทรงอิทธิพล ก็จะสามารถเข้าเป็นคดีพิเศษได้ แต่ถ้า สำนวนคดีเกี่ยวข้องกับกฎหมาย ป.ป.ช. กกต. ก็ต้องให้หน่วยงานดังกล่าวรับไป
พร้อมกล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งแล้ว ว่ามีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษว่าการเลือกตั้งมีการทำโพย ทุจริต เพื่อให้เป็นความปรากฏแก่คณะกรรมการการเลือกตั้งการเลือก โดย กกต.ได้ตอบกลับมาว่า จะต้องมีการสอบสวนก่อน ตามพระราชบัญญัติการได้มาซึ่ง สว. ม.49
ทั้งนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษไม่รับเรื่องไว้ไม่ได้ เพราะมีผู้มาร้องทุกข์ ซึ่งกรมสอบสวนจะไม่มีอคติกับผู้ใด ก่อนหน้านี้ผู้ร้องนำโพยตัวเลขมาให้ตนดูก่อน จึงถามไปว่าตัวเลขนี้ชื่อใคร ปรากฏว่าเป็นชื่อ สว.อยู่ 138 คน เป็นตัวสำรองอีก 2 คน
"อยากกราบเรียน สว. ครับ เราเคารพท่าน การเป็นคดีพิเศษเป็นการพิสูจน์ว่าท่านไม่ได้ทำผิด แต่กรมสอบสวน ต้องเป็นคนที่ทำงานให้ความยุติธรรมคน ตรงไปตรงมา เรื่องนี้คิดว่าผู้ร้องได้รับผลกระทบจำนวนมาก เราคงไม่ตอบโต้อะไร เมื่อเข้าคณะกรรมการคดีพิเศษก็ต้องพิจารณาว่ามีมูลพอสมควรไหม"
พร้อมย้ำว่า เราไม่มีเรื่องการเมืองหรืออะไรทั้งสิ้น เราก็เป็นคนที่เคารพกันอยู่แล้ว อีกทั้งคณะกรรมการคดีพิเศษ มี 20 คน มาจากหลายองค์กร ไม่มีใครที่จะล็อบบี้ได้
ซึ่งกำชับให้พนักงานสอบสวน ทำงานอย่างตรงไปตรงมา
"อยากให้มองว่าเป็นคดีปกติอันหนึ่ง ถ้าท่าน สว.หรือท่านประธาน มีเรื่องไม่สบายใจ จะเชิญผมไปชี้แจงก็ได้ เพราะมีหลายคนที่ปรากฏชื่อเป็น สว. ใน 138 คน"
ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากนักวิชาการแล้ว จะต้องให้ สว.ใน 138 คนนั้น มาให้ข้อมูลหรือไม่ พันตำรวจเอกทวี ระบุว่าให้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน แต่ต้องไม่กลั่นแกล้งใคร ให้พยานหลักฐานกำหนดเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน พยานทางวิทยาศาสตร์มีอยู่แล้ว คนอยู่ต่างมุมของประเทศมาอยู่รวมตัวกันได้อย่างไร ก็เป็นสิ่งที่ทุกท่านต้องมาตอบ ซึ่งตอนนี้พยานหลักฐานบางส่วนก็ได้รับมาแล้ว
ส่วนการเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามที่พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง จะยื่นวาระนั้น พันตำรวจเอกทวี ระบุว่า ยินดีเลยครับ เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์
นอกจากนี้ ระบุว่าการจะเป็นคดีพิเศษ อยู่ที่อำนาจของอธิบดี ไม่จำเป็นต้องรอหนังสือจาก กกต. เพราะดำเนินการในกฎหมายคนละฉบับกัน โดยการรวบรวมหลักฐานในการสอบสวน ซึ่ง ผู้เชี่ยวชาญที่ต้องการมากที่สุดคือสมาคมคณิตศาสตร์แห่งประเทศไทย เพราะจะช่วยคลายข้อสงสัยว่าทำไมการกำหนดตัวเลขต่าง ๆ ถึงเป็นตามโพย โดยการทำสำนวนคดี ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน
Advertisement