นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผย ถึงความคืบหน้าการจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรภายหลังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งร่างนี้มายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้วว่า ทางกระทรวงการคลังได้ยืนยันร่างของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และจะดำเนินการตามขั้นตอนคือทำหนังสือเวียนไปยังทุกกระทรวงและนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง จากนั้นเมื่อที่ประชุม ครม.เห็นชอบแล้วก็จะส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 11 เม.ย. นี้ และยืนยันว่าร่างกฏหมายฉบับนี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทำให้กฎหมายเดินต่อไปไม่ได้ แต่บางอย่างกลับเป็นประโยชน์ด้วยซ้ำมีการเพิ่มมาตราที่ทำให้รัดกุมขึ้น เช่น การเพิ่มบทลงโทษที่กฤษฎีกา มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้
ส่วนประเด็นผู้ที่จะเข้าเล่นการพนันจะต้องมีเงินไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทนั้น นายจุลพันธุ์ กล่าวว่าโจทย์ของเรามีสองมิติคือหนึ่ง ต้องการแก้ไขการพนันที่ผิดกฎหมายสองคือการสร้างเศรษฐกิจเป็นตัวขับเคลื่อนใหม่ หากมีการขีดเส้นที่ 50 ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบสอบของกระทรวงการคลังพบว่ามีเพียง 10,000 บัญชี จะหมายความว่าจะกันคนร้อยละ 70 ไปเล่นการพนันใต้ดินหรือตามแนวชายแดนแทน ซึ่งทางกฤษฎีกาได้มีการปรับวิธีเบื้องต้นคือ โดยใช้เกณฑ์การชำระภาษีย้อนหลังสามปี ซึ่งจะทำให้ได้ผู้เล่นเพิ่มขึ้นหน่อยอยู่ในจุดที่เหมาะสม แต่ในชั้นนี้ 50 ล้านบาทไม่มีแล้วอย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และย้ำว่าเกณฑ์ค่าธรรมเนียมเข้าเล่น 5,000 บาทยังอยู่
พร้อมระบุว่าในร่างกฎหมายดังกล่าวได้ระบุสัดส่วนกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรร้อยละ 10 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ยืดหยุ่น แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับสภาจะพิจารณา
Advertisement