Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เรืองไกร ร้อง ป.ป.ช. สอบ วันนอร์ หาเหตุไม่บรรจุญัตติซักฟอกนายกฯ

เรืองไกร ร้อง ป.ป.ช. สอบ วันนอร์ หาเหตุไม่บรรจุญัตติซักฟอกนายกฯ

9 มี.ค. 68
10:46 น.
|
142
แชร์

เรืองไกร ร้อง ป.ป.ช. สอบ ประธาสภาผู้แทนราษฎร หาเหตุจะไม่บรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี หรือไม่

เมื่อวันที่ 9 มี.ค 68 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. รีบตรวจสอบ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่ามีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 วรรคหนึ่ง (1) หรือไม่ และเพื่อประโยชน์ในการทำหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ขอให้ ป.ป.ช. มีหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรให้รีบบรรจุญัตติดังกล่าวตามมาตรา 151 แห่งรัฐธรรมนูญ โดยเร็วด้วย

นายเรืองไกร กล่าวว่า เรื่องนี้ใช้แค่การนับเลขในเอกสารเพียงแค่ 3 แผ่น กับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ข้อข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 และมาตรฐานทางจริยธรรมของ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 มาประกอบคำร้อง ก็เพียงพอที่จะยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ได้แล้ว ดังนี้

ข้อ 1. เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2568 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ได้เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎร ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 151ไปแล้วนั้น

ข้อ 2. ต่อมาเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2568 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ สผ 0014/2559 เรื่อง ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เรียน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ โดยอ้างถึงหนังสือลงวันที่ 27 ก.พ. 2568 ไว้โดยชัดแจ้ง ซึ่งในหนังสือที่ สผ 0014/2559 มีความว่า

“ตามที่ท่านกับคณะได้เสนอญัตติขอเปิดขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ นั้น

ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าการระบุชื่อบุคคลภายนอกในเนื้อหาญัตติอาจทำให้บุคคลภายนอกได้รับความเสียหาย เนื่องจากไม่สามารถชี้แจงในที่ประชุมสภาได้ จึงขอให้ท่านแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวโดยนำรายชื่อบุคคลภายนอกออกจากเนื้อหาญัตติ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ข้อ 176

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ”

ข้อ 3. การที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรขอให้นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวโดยนำรายชื่อบุคคลภายนอกออกจากเนื้อหาญัตติ โดยกล่าวอ้างตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ข้อ 176 นั้น อาจขัดต่อข้อบังคับดังกล่าว เนื่องจาก ข้อ 176 กำหนดว่า

“ข้อ 176 เมื่อประธานสภาได้รับญัตติตามข้อ 175 แล้ว ให้ทำการตรวจสอบ หากมีข้อบกพร่องให้ประธานสภาแจ้งผู้เสนอทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับญัตติ

เมื่อประธานสภาได้ตรวจสอบความถูกต้องของญัตติแล้ว ให้บรรจุเข้าระเบียบวาระ การประชุมเป็นเรื่องด่วนและแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ”

ข้อ 4. ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในหนังสือด่วนที่สุด ที่ สผ 0014/2559 ซึ่งลงวันที่ 7 มี.ค. 2568 นั้น ได้อ้างถึงหนังสือของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิกับคณะ ลงวันที่ 27 ก.พ. 2568 ไว้โดยชัดแจ้ง ดังนั้น หนังสือด่วนที่สุด ที่ สผ 0014/2559 ลงวันที่ 7 มี.ค. 2568 ที่กล่าวอ้างถึงข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ข้อ 176 ซึ่งนับจากวันที่ 27 ก.พ. 2568 ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้รับญัตติตามข้อ 175 แล้ว แต่มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ สผ 0014/2559

ซึ่งลงวันที่ 7 มี.ค. 2568 นั้น จึงเป็นการตรวจสอบญัตติดังกล่าวโดยกล่าวอ้างว่ามีข้อบกพร่องซึ่งเป็นการตรวจสอบข้อบกพร่องที่ไม่อยู่ในกำหนดเวลาเจ็ดวันที่บังคับไว้ตามข้อ 176 เพราะนับจากวันที่ 27 ก.พ. ถึง 7 มี.ค. 68 ยังไงก็เกินเจ็ดวันแน่นอน ดังนั้น การกล่าวอ้างว่าตรวจสอบข้อบกพร่องแล้วมีการอ้างถึงบุคคลภายนอกนั้น จึงอาจเป็นการที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรใช้หน้าที่และอำนาจโดยไม่ชอบ ตามข้อบังคับ ข้อ 9 (6) และอาจวางตัวไม่เป็นกลางตามข้อ 9 (1) ด้วย

ข้อ 5. รัฐธรรมนูญ มาตรา 119 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า

“มาตรา 119 ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภามีหน้าที่และอำนาจดำเนินกิจการของสภานั้น ๆ ให้เป็นไปตามข้อบังคับ รองประธานสภามีหน้าที่และอำนาจตามที่ประธานสภามอบหมาย และปฏิบัติหน้าที่แทนประธานสภาเมื่อประธานสภาไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้”

ข้อ 6. รัฐธรรมนูญ มาตรา 124 วรรคสาม บัญญัติว่า

“ในกรณีตามวรรคสอง ถ้าสมาชิกกล่าวถ้อยำใดที่อาจเป็นเหตุให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่รัฐมนตรี หรือสมาชิกแห่งสภานั้นได้รับความเสียหาย ให้ประธานแห่งสภานั้นจัดให้มีการโฆษณาคำชี้แจงตามที่บุคคลนั้น ร้องขอตามวิธีการและภายในระยะเวลาที่กำหนดในข้อบังคับการประชุมของสภานั้น ทั้งนี้ โดยไม่กระทบ ต่อสิทธิของบุคคลในการฟ้องคดีต่อศาล”

ข้อ 7. มาตรฐานทางจริยธรรมของ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 บางข้อ กำหนดว่า

“ข้อ 3 มาตรฐานทางจริยธรรมนี้ให้ใช้บังคับแก่บุคคล ตามวรรคสองดังต่อไปนี้

มาตรฐานทางจริยธรรมนี้ให้ใช้บังคับแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และ คณะรัฐมนตรีตามรฐธรรมนูญแหงราชอาณาจกรไทย มาตรา 219 วรรคสอง ด้วย”

“ข้อ 8 ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชนโดยมิชอบ เพื่อตนเอง หรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ”

“ข้อ 13 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม เป็นอิสระ เป็นกลาง และปราศจากอคติ โดยไม่หวั่นไหวต่ออิทธิพล กระแสสังคม หรือแรงกดดันอันมิชอบด้วยกฎหมาย โดยคำนึงถึงสิทธิและ เสรีภาพของประชาชน ทั้งนี้ ตามความเหมาะสมแห่งสถานภาพ”

“ข้อ 17 ไม่กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง”

ข้อ 8. ดังนั้น จากข้อเท็จจริงตามหนังสือลงวันที่ 27 ก.พ. 2568 ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และหนังสือด่วนที่สุด ที่ สผ 0014/2559 ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำโดยอ้างถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อพิจารณากับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 และมาตรฐานทางจริยธรรมของ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน

และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 แล้ว อาจทำให้สาธารณชนเข้าใจได้ว่า ข้อกล่าวอ้างของประธานสภาผู้แทนราษฎรมิอาจรับฟังได้ มีเจตนาหาเหตุจะไม่บรรจุญัตติ โดยการกล่าวอ้างที่มีพฤติการณ์จงใจฝ่าฝืนข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ข้อ 176 เข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่เป็นกลาง

และเข้าข่ายเพื่อหาเหตุมาเอื้อประโยชน์ให้กับนายกรัฐมนตรี หรือไม่ กรณีจึงมีเหตุอันควรขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ว่ามีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 วรรคหนึ่ง (1) หรือไม่

Advertisement

แชร์
เรืองไกร ร้อง ป.ป.ช. สอบ วันนอร์ หาเหตุไม่บรรจุญัตติซักฟอกนายกฯ