ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงการติดต่อศิลปินระดับโลกมาแสดงในไทย หลังสิงค์โปร์ติดต่อเลดี้ กาก้า จัดคอนเสิร์ตโดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐบาล ว่า เรามีหน่วยงานที่ดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้วในประเทศไทย และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลหากเป็นเรื่องจริง จะเห็นได้ชัดว่าภาคเอกชน ซึ่งทางสิงคโปร์แอร์ไลน์ ซึ่งทุกอย่างมีขั้นตอน
ส่วนกรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและให้การบ้านไปก่อนหน้านี้ ว่าให้ดีลบิ๊กอีเว้นท์มาจัดในไทย นายสวงศ์ กล่าวว่าขณะนี้ได้ทำการศึกษาแล้ว อยู่ในขั้นตอนการเสนอรายละเอียดให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. จากนั้นจะมีการเสนองบประมาณเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ช่วงประมาณเดือนเมษายนนี้ เราจะมีโอกาสได้เห็นศิลปินระดับโลกมาจัดคอนเสิร์ตในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันได้มีการพูดคุย กลับบริษัทแม่ของศิลปินเหล่านี้อยู่แล้ว
ส่วนความคืบหน้าการต่อสัญญาจัดการแข่งขัน Moto GP นายสรวงศ์ กล่าวว่า ทางรัฐบาลสนับสนุนมากขึ้นทุกปี ซึ่งกีฬาที่เป็น อาชีพรัฐบาลสนับสนุนให้ในส่วนที่เป็นการเริ่มต้น ส่วนภาคเอกชนที่เข้ามา ตลอดเวลา 7 ปีที่ประเทศไทยจัดได้ประโยชน์แน่นอน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งกำลังพิจารณาว่า อยากให้สัญญาเป็นเหมือน 5 ปีที่ผ่านมา
รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆที่จะเอื้อให้กับประเทศไทย ในฐานะที่รัฐบาลสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องหารือกับภาคเอกชนด้วย เพื่อแบ่งเบาภาระของรัฐบาล ในฐานะที่เราเป็นลูกค้าเก่า หากต่อสัญญาเลย โดยไม่มีการเจรจาต่อรอง จะทำให้เราเสียประโยชน์ได้ แต่ยืนยันว่าการจัดอีเว้นท์ ทำประโยชน์ให้กับประเทศไทย และไม่อยากให้เปรียบเทียบการแข่งขันระหว่าง Formula One และ MotoGP ซึ่งทั้งสองประเภทไทยพร้อมจัดอยู่แล้ว และหากจัดได้จะดีมาก
นายสรวงศ์ยังยืนยันว่า หากมีการต่อสัญญา จะเป็นผลดี และหากไม่ตอบจะทำให้เราเสียประโยชน์ด้วยซ้ำ แต่ยืนยันว่าต้องคุยกันในเรื่องรายละเอียด ซึ่งนายกรัฐมนตรีและตนก็อยากต่อ แต่อยากให้เข้าใจว่าเป็นช่วงของการพูดคุยกัน ระหว่างภาครัฐและเอกชนผู้ที่ถือลิขสิทธิ์
ส่วนการจัดการแข่งขันMotoGP จะเป็นสนามเดิมหรือไม่ นายสวงศ์ กล่าวยอมรับว่าใช่ เพราะมีเพียงสนามเดียว และยืนยันว่าบริษัทผู้จัดแข่งขันMotoGP ยังรอการพูดคุยกับรัฐบาลไทยอยู่ และตนได้ส่งผู้แทนไปเจรจา ก่อนจะไปพูดคุยด้วยตัว้เองว่าจะสามารถสนับสนุนอะไรภาครัฐได้บ้าง
ทั้งนี้นายสรวงศ์ ขอบคุณนายเนวิน ชิดชอบ ที่เป็นตัวตั้งตัวตีดึงรายการนี้เข้ามา และก่อประโยชน์ให้ประเทศไทยมหาศาล เพียงแต่ประเทศไทยมีข้อจำกัดเรื่องสนามแข่งที่มีมาตรฐานเพียงสนามเดียว การจะทำสนามใหม่เหรือเพิ่มสนามต้องไปคุยกันในระยะยาว
ส่วนตั้งเป้าว่าจะมีเงินสะพัดเท่าใดนั้น ยืนยันว่า ตัวของผู้จัดและรัฐบาลไม่ได้คำนึงถึงกำไร แต่ในภาพรวมMotoGP มีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 5000 -6000 ล้านบาทแน่นอน ซึ่งปีนี้โชคดีที่ได้รับเกียรติเป็นสนามเปิด และมีกิจกรรมในกทม.มากกว่าปกติ ยืนยันว่ารัฐบาลทำอย่างเต็มที่เพื่อให้MotoGP ยังอยู่คู่กับคนไทย และอยากให้มั่นใจ และตนก็เป็นคนหนึ่งที่ให้มีรายการนี้ในไทย
Advertisement