13 มีนาคม 2567 รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงมิติด้านการสาธารณสุขชายแดนไทย-เมียนมา ว่า ต้องยอมรับว่าเป็นวิกฤตอย่างมาก หลังนโยบายของสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนไป ส่งผลกระทบให้คนจำนวนมาก ทั้งผู้ลี้ภัยที่อยู่ในค่ายชายแดนที่มีทั้งหมด 9 ค่าย เงินสนับสนุนค่ายเหล่านี้มาจากสหรัฐฯ ซึ่งกำลังจะหมดลง ทำให้ผู้ลี้ภัยอาจไม่อยู่ในค่ายอีกต่อไป ดังนั้น ไทยจึงต้องหาทางรับมือ จะมีมาตราการจัดการอย่างไร มิเช่นนั้นจะทำให้มีปัญหาอื่นตามมา ทั้งการหลบหนีค่าย และไม่มีข้อมูลภายในระบบ อาจเกิดเป็นปัญหาลูกโซ่ต่อมา
ทางกรรมาธิการได้พยายามพูดคุยกับหน่วยงานรัฐ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ ทดแทนงบประมาณที่สหรัฐฯ ไม่จ่ายอีกต่อไป จากนี้มีอีกหลายกระบวนการ แต่ก็อยากให้เป็นภาระกับไทยน้อยที่สุด ในฐานะประธาน กมธ. มองว่า ปัญหาของไทยเองก็มี ทั้งการขาดไร้แรงงานจึงต้องนำเข้าแรงงานจากประเทศต่างๆ คงต้องดูว่าจะมีจุดไหนที่อยู่กันคนละครึ่งทาง ที่จะทำให้ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ไม่ต้องรอเงินจากเอ็นจีโอ และพอจะหางานทำต่อไปได้บ้าง ที่ไม่ต้องหนีมาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ หรือเมืองเศรษฐกิจอื่น ๆ ในประเทศ เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาได้
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ต้องไม่ลืมว่าคนเหล่านี้อยู่ในประเทศประเทศไทยมา 30 ถึง 40 ปี แต่วันนี้ยังมีปัญหาเรื่องการสู้รบตำแหน่งชายแดน คนเหล่านั้นก็หลบหนีมาที่ประเทศไทย เราจึงต้องหามาตรการรองรับ เพราะบางคนมีสุขภาพไม่แข็งแรงและได้รับบาดเจ็บ และต้องยอมรับว่าสาธารณสุขชายแดนแบกรับภาระมาก หลายโรงพยาบาลเป็นหนี้จึงต้องมีการพูดคุยเพื่อหาทางออกในหลายภาคส่วนต่อไป
ด้านนายมานพ กล่าวเสริมว่า การลงพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ในปีที่ผ่านมา ความคิดของฝ่ายปฏิบัติการ 7 โรงพยาบาล ในมาตราการ Healthland คือการสร้างความร่วมมือสาธารณสุขระหว่างชายแดน ต้องดูว่าจะมีการพัฒนาเชิงนโยบาย และความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างไร
นายรังสิมันต์ ทิ้งท้ายว่า วันนี้กรรมาธิการจะรับฟังเป็นหลัก ซึ่งเวลาค่อนข้างกระชั้นชิด เพราะเอ็นจีโอไม่มีเงินแล้วทำได้เพียงรอเวลาจึงต้องหาแนวทางในการจัดการโดยเร็วคงเป็นปัญหาใหญ่ที่ล้อมประเทศไทยเราอยู่
Advertisement