Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
มติรัฐสภา 304 เสียงเห็นด้วย ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ตีความแก้รธน.

มติรัฐสภา 304 เสียงเห็นด้วย ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ตีความแก้รธน.

17 มี.ค. 68
22:23 น.
|
32
แชร์

มติรัฐสภา 304 เสียงเห็นด้วย ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ตีความแก้รธน. สุทิน คาดใช้เวลา 1 เดือนรอความชัดเจน ยันไม่ใช่การเตะถ่วง

เมื่อเวลา 12.05 น. วันที่ 17 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา พิจารณาญัตติด่วน เรื่องขอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) ของนพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.เป็นผู้เสนอ และญัตติของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ ซึ่งค้างมาจากการประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 14 ก.พ.68

โดยที่ประชุมมีมติให้พิจารณาทั้ง 2 ญัตติไปพร้อมกัน เนื่องจากมีเนื้อหาในทำนองเดียวกันเกี่ยวกับการเพิ่มหมวด 15/1 กรณีการจัดตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยที่ยังไม่ไดทำประชามติสอบถามความเห็นประชาชนว่า ต้องการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่นั้นจะกระทำได้หรือไม่

นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวสรุปว่า มีข้อกล่าวหาจากสมาชิกว่ามีเจตนาเตะถ่วง ยื้อเวลาการแก้รัฐธรรมนูญ ทำให้เกิดความเสียหาย เสียเวลา ฝ่ายที่เสนอญัตติวันนี้มีความกลัว ไม่กล้าเดินหน้า กล้วต่อศาล กล่าวต่อคำวินิจฉัย ความกลัวนั้นทำให้สภาและประชาชนเสียหาย

ที่สำคัญที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวหาว่า ฝ่ายที่เสนอไม่มีความกล้าหาญ ขลาดเขลา หงอ ก็ต้องชี้แจงว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เดินมาถึงจุดทางเลือก 2 ทางเท่านั้น คือจะเดินหน้าต่อให้จบวาระ 3 หรือจะไม่เดินหน้าต่อเปลี่ยนมายื่นตีความ

ซึ่งตนอยู่ในฝ่ายที่ขอยื่นตีความจนถูกกล่าหาว่าทำไมไม่เดินหน้าต่อ จึงอยากถามว่าถ้าเดินหน้าต่อท่านวิเคราะห์อย่างไร พวกตนวิเคราะห์บนโลกความเป็นจริงแล้วว่า เดินหน้าต่อคะแนนไม่ถึงตกแน่นอน ถ้าตกได้ประโยชน์อะไร แล้วถอนยื่นตีความได้ประโยชน์อะไร

นายสุทิน กล่าวต่อว่า ในทางการเมืองแม้จะไม่เห็นด้วยกันทุกพรรค แต่จากการสำรวจเสียง สส.เราผ่าน ที่ไม่ผ่านคือ 67 เสียงของสว. เราจึงหันมาใช้วิธีการไปยื่นตีความให้ชัด ถ้าชัดแล้วว่าทำประชามติกี่ครั้งกี่รอบ คนที่อ้างก็จะอ้างไม่ได้

ที่สำคัญที่สุดที่บอกว่าพวกตนกลัวศาลรัฐธรรมนูญ ทำไมไม่คิดว่าถ้าถามไปคราวนี้จากที่ศาลตอบไว้กำกวมก็บังคับให้ท่านพูดให้ชัดคราวหน้าจะได้มาเล่นงานภายหลัง ภาษาชาวบ้านบอกว่าทำไมไม่ใช้วิธีตัดหางยัดปากไว้เลย

ฉะนั้นขอปฏิเสธเรื่องกลัว และคาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือนเพื่อรอความชัดเจน ซึ่งไม่ถึงขั้นเตะถ่วง แต่สะดุดเพื่อให้ได้สิ่งที่ดี ส่วนที่กล่าวหาว่ากลัวศาล ไม่กล้าหาญ สยบยอมกับอำนาจที่ไม่ใช่อำนาจของประชาชน คำพระบอกว่าความกล้าหาญควรเสมอด้วยปัญญา ปัญญาควรเสมอด้วยสติ

หากไม่มีปัญญาและสติรบร้อยครั้งก็แพ้ ผมเคยทำงานกับทหาร เขาคัดคนไปรบ ไม่เอากล้าหาญแต่โง่เพราะรบแพ้หมด เขาต้องเอาคนที่ฉลาดๆ นอกจากนั้นต้องมีสติ ต้องเย็นพอ ต้องรู้ว่าเวลาที่ควรใช้ประมาณไหน และอดทนให้ได้ แยกแยะมิตร ศัตรูให้ออก

การแก้รัฐธรรมนูญสู้กับใคร คิดให้ดีว่าควรตำหนิพวกเรา ศาล หรือฝ่ายไหนลองคิดให้ดี หากเลือกมิตร เลือกศัตรู คนร่วมทางถูก ติพองามไม่ทำร้ายกัน ท่านจะมีมิตรร่วมเดินทาง ไม่เช่นนั้นเป็นมวยหลงมุม ไก่หลงตีตัวเองแพ้หมด นายสุทิน กล่าว

นายสุทิน กล่าวต่อว่าว่า ปัญหาของการแก้รัฐธรรมนูญ คือ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ หากเดินหน้าแก้ไขมาตรา 256 ใช้สติปัญญาคิดว่าจะมีคนยื่นตีความหรือไม่ หากมีคนยื่นตีความจะมีปัญหา หากมีปัญญาพอ แก้ปัญหาให้จบ เดินวันนี้ไม่สะดุดอีก

ดังนั้น เพื่อป้องกันคนจะเล่นงานหลายๆ ด่าน คือการใช้สติและปัญญา ส่วนความกล้าหาญต้องต่อสู้ ทั้งนี้ ประชาธิปไตยไม่ใช่รถด่วน การต่อสู้ให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่ต่อสู้และแพ้ บอกให้รู้ว่ากล้าหาญอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีกลยุทธ์ ลมเปลี่ยนทิศต้องเปลี่ยนหัวเรือ เพื่อหลบลม ไม่ให้เรืออับปาง และไปสู่เป้าหมาย ไม่ใช่สู้ลม แบบนี้ไม่ใช้สู้เพื่อประชาธิปไตย

ด้านนายวิโรจน์ อภิปรายตอบโต้ว่า หากศาลรัฐธรรมนูญตีความออกมาจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ สส.พรรคร่วมรัฐบาลจะเห็นด้วย ตนขอให้คำมั่นที่สะท้อนปัญญาให้สมาชิกรัฐสภา ทั้งนี้ ตนดีใจที่นายสุทิน ระบุว่าจะตัดหางสุนัขไม่ยัดปากใครบางคน แต่หากเขาเอาหางสุนัขมารัดคอ ซึ่งตนช่วยเอาออก แล้วเดินหน้าไปด้วยกันได้ ตนยืนยันในความกล้าหาญมีสติปัญญา แต่ท่านจะไม่มีปัญญาแก้รัฐธรรมนูญ

จากนั้นเวลา 17.30 น.ที่ประชุมลงมติเห็นชอบให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 304 เสียง ไม่เห็นด้วย 150 เสียง งดออกเสียง 124 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม แจ้งว่า เป็นอันว่าที่ประชุมให้ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) และสั่งปิดประชุมในเวลา 17.38 น.

Advertisement

แชร์
มติรัฐสภา 304 เสียงเห็นด้วย ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ตีความแก้รธน.