วันที่ 25 มี.ค. 68 ที่รัฐสภา ในช่วงดึกของการประชุมสภาฯ วาระอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังจากที่น.ส.แพทองธาร เดินทางออกจากสภาฯ แล้ว พบว่า สส.พรรคประชาชน ฐานะฝ่ายค้านได้ลุกอภิปรายอย่างต่อเนื่อง เพื่อชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของการบริหารราชการแผ่นดินในด้านต่างๆ ที่ไม่เป็นไปตามการหาเสียง รวมถึงการบริหารของ น.ส.แพทองธาร ส่อว่าเอื้อผลประโยชน์ให้กับนายทุน
โดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า รัฐพรรคเพื่อไทยเป็นฐบาลการละคร ไม่ใส่ใจและสนใจต่อการแก้ปัญหาด้านต่างๆ ทั้งเรื่องปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขรัฐธรมนูญ กับประเด็นที่เป็นข้อพิพาททางการเมืองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล พบว่ารัฐบาลมีภาวะปักมีดไว้ที่แผลทางการเมืองและคาไว้เพื่อรีดไถผลประโยชน์ ขณะที่ประเด็นของปัญหาระบบอุปถัมพ์และพวกพ้องแย่ลงกว่าเดิม ทำให้เกิดความเสี่ยงที่ไม่ได้จำกัดภายในประเทศ อาจถูกส่งออกเป็นซอฟท์พาวเวอร์สู่เวทีนานาชาติ เพราะมีการยอมรับจากนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดีอี ยอมรับกลางสภาฯ ว่า ยอมให้บริษัทที่ทำธุรกิจกาสิโนเป็นผู้สนับสนุนโครงการตามนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของไทย
ขณะที่นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน อภิปรายถึงการตั้งบุคคลที่ขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี ซึ่งพบว่าเป็นตัวการหลักของการเรียกรับผลประโยชน์กรณีแรงงาน ที่ถูกตรวจสอบในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งให้ตรวจสอบ เมื่อปี 2567 นอกจากนั้นมีส่วนพัวพันเกี่ยวกับกรณีการค้ามนุษย์ที่มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวจากประเทศฟินแลนด์ เนื่องจากมีการส่งแรงงานไทยไปเก็บเบอร์รี่ป่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน เมื่อปี 2565 โดยมีนายหน้าคคนไทยและบริษัทจากฟินแลนด์ที่ถูกฟ้องดำเนินคดีการค้ามนุษย์ อย่างไรก็ดีคดีดังกล่าวมีการสืบสวนระหว่างทางการไทยและฟินแลนด์
“ตอนเป็นรมว.แรงงานทำตัวเป็นมาเฟีย เก็บค่าหัวคิว ตอนนี้เขามาเป็นรมช.พาณิชย์ ทั้งนี้จากเอกสารคำให้การของศาลฟินแลนด์ พบคำให้การของนางทุเรียน ฐานะนายหน้าค้าแรงงานไทย ที่พบว่ามีการเข้าพบที่กระทรวงแรงงานและมีการขอค่าหัวคิว หัวละ 3,000 บาท และมีการต่อราคาเหลือ 2,000 บาท โดยพบว่ามีการส่งเงินให้จำนวนทั้งหมด 3 ล้านบาทอยู่ในกล่องน้ำผลไม้ ผ่านกรมการจัดหางาน จากการฝากเงินให้นางบี ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้เลว นายกฯ ตั้งคนแบบนี้เป็นรัฐมนตรีอีกได้อย่างไร” นายสหัสวัต อภิปราย
นายสหัสวัต อภิปรายด้วยว่า มีแรงงานไทยที่ส่งไปเป็นแรงงานเก็บเบอร์รี่ถึง 1.2 หมื่นคน ทั้งนี้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา พบการฟ้องร้องที่สวีเดน ซึ่งตำรวจสวีเดนเข้ามาตรวจสอบในประเทศไทย ทั้งนี้กรณีที่นายกฯ ตั้งคนที่เป็นตัวการเรียกรับสินบนการค้ามนุษย์ เป็นผู้กระทำผิดตามกฎหมายอาญา มีเหตุผลอะไร เป็นเพราะผลประโยชน์ของตนเองใช่หรือไม่
จากนั้นนาย สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ใช้สิทธิพาดพิงว่า “ผมจะกลับบ้านแล้ว แต่มานั่งฟังละครน้ำเน่า ไหนคนที่พูดอยู่ไหนให้นั่งด้วย ขอให้นั่งฟัง ให้หันหน้ามาด้วย” ทำให้ถูกประท้วงจาก สส.พรรคประชาชนว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทักท้วงขอให้พูดกับประธานและไม่ต้องชี้หน้า
จากนั้น นายสุชาติ ชี้แจงว่า “เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับนายกฯ ทั้งนี้กรณีที่ตนมีคดีความกับ ดีเอสไอ หรือ ป.ป.ช.ต้องมีมารยาทอภิปรายในสภา ต้องรู้ญัตติ ที่ด่าตนชั่วเลว ตนเกิดมาไม่เคยเจอ แต่เพิ่งเห็น สส.ชลบุรีชั่วเลว ก็วันนี้”
นายสุชาติ ชี้แจงด้วยว่า ตนไม่เคยอยู่ในกระบวนการค้ามนุษย์ และรับเงิน ทั้งนี้ตนกล้าพร้อมรับการตรวจสอบทั้งหมด ทั้งนี้ที่บอกว่ามีการฟ้องร้องจากแรงงาน พบว่าแรงงานที่ไป 3,900 คน พบคนที่มีปัญหาประมาณ 30 คน ซึ่งเป็นคนใหม่ฟ้องร้องตามกฎหมายแรงงานที่ฟินแลนด์ อย่างไรก็ดีคนที่ไปทำงานต้องมีสัญญา อย่าโง่ อย่างไรก็ดีโควตาการส่งแรงงานไทยไปเก็บผลไม้ป่าออกโดยสถานทูตฟินแลนด์โดยกระทรวงแรงงานเป็นแค่ตัวกลางเพื่อป้องกันการแรงงานไทยกลับมาแล้วเป็นหนี้เท่านั้น
“ที่บอกว่ามีเงินใส่กล่องมาให้ผม และบอกว่านางทุเรียนซัดทอดนั้น ผมตามหานางทุเรียนมานาน ต้องการถามว่าที่ให้การซัดทอดแบบนั้นเพราะอะไร ทั้งนี้ที่บอกว่าผมเลว ผมชั่ว ผมไม่เคยเห็นสส.ชลบุรีเลวเท่า ไอ้ห่า ที่บอกว่าชั่วเลว อาชญากร คนที่เป็น สส.ต้องมีวุฒิภาวะ การศึกษา ทุกอย่างพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม” นายสุชาติ อภิปราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการชี้แจงของนายสุชาติและหลุดคำพูดว่า ไอ้ห่านั้น มีสส.พรรคประชาชนประท้วงและให้ถอนคำพูด ซึ่งนายสุชาติยอมถอนคำพูดดังกล่าว
นอกจากนั้นในช่วงหนึ่งนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ลุกชี้แจงตามที่มีภาพระบุว่าเป็นคนที่ขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีว่า ที่บอกว่าตน และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคกล้าธรรม ส่อแวววืดนั้น ไม่วืด แต่ปฏิเสธไม่ได้เป็น
Advertisement