เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 มี.ค. 68 คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประชุม ปรึกษาหารือ และลงมติ กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภาของนาย สมชาย เล่งหลัก สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 111 (4) ประกอบมาตรา 108 ข. ลักษณะต้องห้าม (1) และมาตรา 98 (5) หรือไม่
สืบเนื่องจากศาลฎีกา มีคำพิพากษาที่ ลต สส 338/2567 ลงวันที่ 23 ก.ย. 2567 พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนาย สมชาย เป็นเวลา 10 ปี นับจากวันที่มีคำพิพากษา จึงเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายสมชาย สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีลักษณะต้องห้าม รวมทั้ง กกต. ยังขอให้ศาลมีคำสั่งให้ตำแหน่ง สว. ของนายสมชาย ว่างลงนับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย
จากนั้นเวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาและวินิจฉัยให้นาย สมชาย เล่งหลัก สิ้นสุดสมาชิกภาพวุฒิสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 111 (4) ประกอบมาตรา 108 ข. ลักษณะต้องห้าม (1) และมาตรา 98 (5) นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่คือวันที่ 11 ธันวาคม 2567 และให้ถือว่าวันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมาตรา 76 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลในวันอ่านคือวันที่ 26 มีนาคม 2568 เป็นวันที่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการเลือกว่างลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 107 วรรคสี่ ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภามาตรา 45
ทั้งนี้เมื่อสมาชิกภาพสิ้นสุดลง ทำให้ สว.ที่มาจากการเลือกว่างลง โดยประธานวุฒิสภา ต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา เลื่อนบุคคลในบัญชีสำรอง ของกลุ่มนั้นขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนตามลำดับตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. มาตรา 45 โดยให้ถือว่าวันที่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาว่างลงคือวันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่ทุกกรณีฟังโดยชอบ คือวันที่ 26 มี.ค. 68
Advertisement