วันที่ 1 เม.ย. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณีนำทีมเข้าไปตรวจวัสดุก่อสร้างในจุดที่เกิด อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ซึ่งได้ขออนุญาต นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทยแล้ว มีทีมกู้ภัยมาช่วยตัดเหล็ก และเก็บตัวอย่างมาได้ 6 ประเภท ทั้งเหล็กกลม และเหล็กข้ออ้อย 3 ยี่ห้อ จากการตรวจสอบเมื่อวานพบว่า มีเหล็ก 2 ขนาด ที่ไม่ได้มาตรฐาน คือเหล็กไซส์ 20 และ 32 มาจากยี่ห้อเดียวกัน
ส่วนจะสั่งปิดโรงงานเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่นั้น เหล็กที่พบมาจากผู้ผลิตที่มาจากกระทรวงอุตสาหกรรมสั่งหยุดโรงงานเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว จากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขยายผลตามปกติ เมื่อพบว่ามีผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน ต้องเรียกเก็บของมาให้หมด ให้ผู้ผลิตหยุด และปรับปรุงก่อน ในกรณีนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้หยุดและปรับปรุงไปแล้ว จึงต้องไปดูว่ามีผลพอที่จะให้เพิกถอนใบอนุญาตได้เลยหรือไม่
เมื่อถามว่าเหล็ก 2 ขนาดที่ไม่ได้มาตรฐาน จะอนุมานว่าเป็นทั้งล็อตที่ใช้ในการก่อสร้างหรือเฉพาะที่สุ่มตรวจตัวอย่าง นายเอกนัฏ กล่าวว่า การเข้าไปสุ่มตรวจจะทำ 2 รอบ โดยรอบแรกพื้นที่เกิดเหตุมีการกู้ภัยอยู่จึงเป็นการสุ่มตัวอย่า งเพราะไม่อยากเข้าไปในพื้นที่อาคารที่กำลังมีการกู้ภัย โดยระหว่างเก็บตัวอย่างได้มีการติดกล้องที่เจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันว่าเก็บจากจุดไหนบ้าง แต่ละประเภทมีหลายตัวอย่าง และตอนที่ลำเลียงออกไป รวมถึงการแกะตัวอย่างก่อนตรวจสอบก็มีสื่อมวลชนบันทึกภาพอยู่ ส่วนรอบต่อไปจะเข้าพื้นที่ไปพร้อมกับคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่นายกรัฐมนตรีตั้งไว้แล้ว โดยมีกรมโยธาธิการและผังเมืองพร้อมตำรวจ ซึ่งจะเป็นการเก็บแบบชี้เป้า ซึ่งจะต้องมีแบบ และจะต้องเอา BOQ ของผู้รับเหมาว่ามีเหล็กประเภทไหนบ้าง เก็บให้ครบทุกประเภท หลายตัวอย่างและเก็บในจุดที่สันนิษฐานว่าเป็นจุดที่ทำให้ตึกถล่ม ซึ่งจะเป็นการเก็บเต็มรูปแบบกว่าครั้งแรก
นายเอกนัฏ ยอมรับว่า ตนก็อึ้งเหมือนกัน เพราะโรงงานที่พบว่าผลิตเหล็กไม่ได้มาตรฐานนี้ เป็นโรงงานที่ตนไปตรวจ และสั่งปิดไปตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว แต่การก่อสร้างเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2563 สร้างมาแล้ว 5 ปี ซึ่งในการตรวจเหล็กจะตรวจ 2 ส่วน คือคุณสมบัติด้านการกล และคุณสมบัติทางเคมี ครั้งแรกที่ไปตรวจตกทางเคมี และล่าสุดที่ตรวจเมื่อวานคือตกทางการกล ที่ผ่านมาสั่งให้หยุดและอายัดของกลาง เรียกเก็บสินค้ามา และให้หยุดเพื่อปรับปรุง ตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่มีการเปิดตามขั้นตอนทางกฎหมาย เมื่อสั่งให้หยุดปรับปรุง พอปรับปรุงแล้วก็หนังสือมา เพื่อสั่งเปิดและต้องเอาของมาตรวจอีกที ถ้ายังตกอีกคราวนี้ ก็อาจจะปิดและเพิกถอนใบอนุญาต มอก. ดังนั้นหลักฐานทั้งหมดที่เก็บมาได้ในครั้งนี้ ก็จะดูว่าเพียงพอหรือไม่ ที่จะไม่ให้เปิดอีก เพราะถ้าเปิดอีก ผลิตออกมาก็มีปัญหาอีก เราก็ต้องใช้กฎหมายเพื่อรักษาประโยชน์ เพื่อผลประโยชน์ประชาชน เรื่องนี้ตนต่อสู้มาตลอดไม่ใช่เรื่องเหล็กอย่างเดียวยังมีเรื่องสายไฟที่ไม่ได้มาตรฐานด้วย โดยพยายามเรียกเก็บของที่ไม่ได้มาตรฐาน
นายเอกนัฏ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้ดำเนินการตรวจ และปิดโรงงานเหล็กไปแล้ว 7 โรงงาน อยู่ระหว่างการสอบสวนอีก 3 โรงงาน มูลค่า 400 ล้าน อีกนัยยะนึงคือมีอุตสาหกรรมธุรกิจศูนย์เหรียญที่มาอยู่ในปนะเทศแล้วไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับไทย เป็นทุนต่างชาติ 100% จ้างงานต่างด้าว 100% ภาษีบางเจ้าไม่ต้องจ่ายและได้รับ BOI ด้วย ซึ่งจากที่ตนทำมา 6 เดือน บางเรื่องมีลักษณะการดำเนินงานเป็นกระบวนการ และเมื่อวานนี้อยากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ตนนำทีมไปเก็บหลักฐานเองทั้งหมด เพราะเชื่อว่าหลักฐานบางส่วน มีความสำคัญและมีน้ำหนัก และสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ตนได้ข่าวว่ายังมีความพยายามวิ่งเต้น และข่มขู่เจ้าหน้าที่ เรื่องนี้ตนเข้าใจ ไม่เป็นไร ถ้าไม่กล้าพูดตนก็จะพูดเองเกิดอะไรขึ้นตนรับผิดชอบเอง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ตนคิดว่าเราปล่อยปละละเลยต่อไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
โดยในวันพรุ่งนี้ (2 เม.ย. 68) จะมีการลงพื้นที่จะมีการลงพื้นที่ตรวจ โรงงาน ซินเคอหยวน ต.หนองละลอก จ.ระยอง ที่สั่งปิด หลัง สส. ประชาชนลงพื้นที่ ซึ่งพบว่าโรงงานดังกล่าวยังมีความเคลื่อนไหวพบรถบันทุกขนฝุ่นแดง ทั้งที่มีการสั่งปิดตั้งแต่ปี 2567 ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าจะมีการลักลอบผลิตเหล็กอยู่หรือไม่ หากพื้นที่แล้วตรวจพบและพบว่ามีการลักลอบจะถูกตั้งข้อกล่าวหา และดำเนินคดีเพิ่มอีก
Advertisement