นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ตึกสตง.พังถล่ม ได้เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินงานภารกิจกู้ภัย และรื้อถอนเศษซากอาคาร ว่าเมื่อวานนี้ ทีมกู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิตที่สมบูรณ์อยู่ 4 ร่าง เป็นกลุ่มคนที่ทํางานอยู่ชั้น 19 มี 2 ร่างที่ เป็นเพศชาย ส่วนอีก 2 ร่างยังไม่สามารถระบุเพศได้ แต่มีอยู่ 2 ร่างที่มีหลักฐานตรงกับที่บริษัทแจ้งข้อมูลคนคนหาย รวมทั้งยังพบชิ้นส่วน 6 ชิ้นนะครับ รวมกับชิ้นส่วนที่ส่งให้กับทางนิติเวชไปแล้วจํานวน 207 ชิ้นที่จะต้องไปดําเนินการใน การจะพิสูจน์อัตลักษณ์ว่า เป็นของผู้สูญหายรายใด
ส่วนความคืบหน้าการเร่งรื้อถอนในการรื้อซากปูนและเหล็กเส้นจากวานนี้ขนได้ 242 เที่ยว วันนี้วิ่งได้ 281 เที่ยว ซึ่งสอดรับกับพื้นที่จัดเก็บของการทางรถไฟ โดยมีการเปิดพื้นที่หน้างานให้รถสามารถเข้าไปเทปูนได้มากขึ้น
สำหรับความสูงเศษซากอาคารวานนี้มีอยู่ที่ ในโซน A-D อยู่ที่ 11.51 เมตร ขณะนี้เหลืออยู่ที่ 10.52 เมตร ส่วนโซน B-C จาก 9.81 เมตร เหลือยู่ที่ 9.36 เมตร ส่วนเรื่องการตัดแก๊สได้ความร่วมมือกำลังพลและรถจาก ทบ. 3 ชุด และทร.1 ชุด ซึ่งทำงานตั้งแต่ช่วงเที่ยงวานนี้ในการเข้าตัดเหล็กเส้นจนถึง 07.00 น.ของวันนี้เพื่อให้เครื่องจักรหนักทำงานได้ไวขึ้น แต่ยังเจออุปสรรคในเรื่องความอ่อนล้าของเครื่องจักร
ส่วนแผนการดำเนินการในวันนี้เราดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยในช่วงเช้าเราเปิดพื่นที่ C ช่วง C4-C1 ซึ่งเป็นจุดพบร่างทั้ง 4 ร่างในความลึกระดับ 2-3 เมตร ส่วนโซน B เปิดตั้งแต่ B1-B4 เพื่อให้เชื่อมกันในระดับความลึก 2 เมตร ยาวเกือบ 10 เมตร เหลืออีก 5-6 เมตร ที่จะเชื่อมต่อกันได้ และวันนี้จะใช้แผนเดิมเพื่อให้สามารถเชื่อมโซน B และ C ได้ ซึ่งโซน B ในจุดที่ทีมนานาชาติเคยพบสัญญาณชีพก่อนหน้านี้จะมีความลึกลงไป ประมาณ 4-5 เมตร คาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณชั้น 1 ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถเปิดพื้นที่ได้เพียง 2 เมตรยังเหลือ 2-3 เมตร ดังนั้นหากเปิดลึกลงไปเลย อาจจะมีผลกับบริเวณ โซน A และ D ขณะที่โซนA และD อยู่ระหว่างการกระเทาะปูนออกและเข้าตัดเหล็กเพื่อลดระดับความสูงและสกัดด้านข้าง
นายสุริยชัย กล่าวด้วยว่า ตอนนี้เหลือเวลาอีก 10 วันจะถึงสิ้นเดือนหากเราลดระดับความสูงได้วันละ 1 เมตรเราจะสามารถไปถึงชั้น 1 ได้ในสิ้นเดือนนี้ก่อนเริ่มปรับแผนการทำงานในชั้นใต้ดิน เพราะชั้นดังกล่าว ไม่สามารถทำงานบริเวณด้านข้างได้ จึงต้องใช้วิธีการทำจากด้านล่างขึ้นมาข้างบน ซึ่งจะเป็นการปรับแผนอีก 1 รอบ เพราะต้องดูว่าชั้นใต้ดินมีความอัดแน่นมากน้อยแค่ไหนรวมถึงตัวงานมีความหนาแน่นของเหล็กเส้นขนาดไหน ซึ่งเราวางแผนไว้แล้วพร้อมทั้งต้องผลัดเปลี่ยนเครื่องจักร และกำลังพลที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมโยธาธิการและอาสา โดยในวันนี้กรุงเทพมหานครจะเสริมรถเข้ามาเพิ่มเติม ทั้งรถที่ใช้ในการดันเหล็กบริเวณกองวัสดุในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยและรถแบคโฮสำหรับตัดเหล็ก
ส่วนจะมีผู้สูญหายบริเวณชั้นใต้ดินด้วยหรือไม่ นายสุริยชัย กล่าวว่า เราต้องยอมรับความจริงว่ามี เนื่องจากอาคารมีความสูง 34 ชั้น เมื่อพังถล่มลงมาคนที่อยู่บริเวณชั้น 5 หรือ 6 จะถูกอัดลงมาอยู่ชั้นใต้ดิน จากข้อมูลประเมินว่า ชั้น 1 ถึงชั้น 15 จะมีแรงงานอยู่ประมาณ 48 คน
Advertisement