Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
นายกฯ สั่งเร่งรัดศูนย์ขนส่งชายแดน One Stop Service

นายกฯ สั่งเร่งรัดศูนย์ขนส่งชายแดน One Stop Service

29 เม.ย. 68
17:09 น.
แชร์

นายกฯประชุมสั่งเร่งรัดโครงการศูนย์ขนส่งชายแดนOne Stop Service ด่านศุลกากรนครพนม อำนวยความสะดวกทางการค้าการส่งออกเชื่อมโยง การค้าลาว เวียดนาม จีนตอนใต้

ที่ด่านศุลกากรนครพนม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนในพื้นที่ โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าและผู้บริหารส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมด่านศุลกากรนครพนมครั้งนี้ เป็นการอัปเดตหน้างานและติดตามความคืบหน้าโครงการศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ตามข้อสั่งการของอดีตนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ทั้งนี้ ได้รับทราบว่ายังมีอุปสรรคบางข้อ โดยการประชุมในวันนี้จะได้หารือรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นหรือผลักดันให้การดำเนินงานของศูนย์ One Stop Service ให้เสร็จตามเป้าหมาย

จากนั้น นางชนัยพร พูนน้อย นายด่านศุลกากรนครพนม กล่าวรายงานมูลค่าการค้าชายแดนของด่านศุลกากรนครพนมในปีงบประมาณ 2568 (6 เดือนแรก) มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 42,909 ล้านบาท โดยมีสินค้าที่นำเข้าสูงสุด 5 อันดับแรก คือ 1.พลังงานไฟฟ้า จาก สปป. ลาว มีมูลค่า 2,566 ล้านบาท 2.แบตเตอรี่ จากประเทศจีน มีมูลค่า 1,811 ล้านบาท 3.ปุ๋ยเคมี จาก สปป. ลาว มีมูลค่า 1,779 ล้านบาท 4.โทรศัพท์มือถือ จากประเทศจีน มีมูลค่า 972 ล้านบาท และ 5.ของอื่น ๆ ทำด้วยพลาสติก จากประเทศจีนมีมูลค่า 920 ล้านบาท

ส่วนสินค้าที่ส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรกในปีงบประมาณ 2568 (6 เดือนแรก) คือ 1.ผลไม้สด (ทุเรียน มังคุด ลำไย ตามลำดับ) ปลายทางที่ประเทศจีน มีมูลค่า 5,977 ล้านบาท 2.เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ปลายทางที่ประเทศเวียดนาม มีมูลค่า 4,956 ล้านบาท 3.โค กระบือมีชีวิต ปลายทางที่เวียดนาม มีมูลค่า 2,516 ล้านบาท 4.ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ปลายทางที่ สปป.ลาว มีมูลค่า 1,498 ล้านบาท และ 5.แผงวงจรไฟฟ้า ปลายทางที่ประเทศจีน มีมูลค่า 591 ล้านบาท

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก รายงานผลความคืบหน้าโครงการก่อสร้างศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ปัจจุบันมีความก้าวหน้าในการก่อสร้างกว่า 95% และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2568 ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้เป็นศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) สามารถดำเนินพิธีการนำเข้าและส่งออกได้ในจุดเดียว ตามมติคณะรัฐมนตรีและวัตถุประสงค์ของโครงการ ตลอดจนให้เป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญาร่วมลงทุน (PPP) ซึ่งกำหนดให้ภาครัฐมีหน้าที่รับผิดชอบในการประสานและจัดตั้งศูนย์บริการดังกล่าว โดยขอให้หน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจปล่อยสินค้า (Customs, Immigrations and Quarantines : CIQ) พิจารณาจัดเจ้าหน้าที่เข้ามาปฏิบัติงานภายในศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม และดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง เช่น การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย/ระเบียบของหน่วยงาน เป็นต้น

ซึ่งผลประโยชน์ที่ได้จากโครงการก่อสร้างศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม เป็นการเปิดประตูการค้า และเสริมสร้างเศรษฐกิจ ทั้งเพิ่มการจ้างงานให้กับจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง ช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ให้แก่ผู้ประกอบการ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ นอกจากนี้ ยังผลักดันให้จังหวัดนครพนมก้าวขึ้นเป็น Gateway และศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน พร้อมทั้งลดข้อจำกัดของภาครัฐในการดำเนินโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายและข้อสั่งการ โดยขอให้ด่านศุลกากรนครพนม พัฒนาระบบการตรวจปล่อยสินค้าให้มีความรวดเร็ว โปร่งใส และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อลดต้นทุนเวลาและค่าใช้จ่ายของภาคเอกชน พร้อมทั้งให้ดูแลภาระค่าธรรมเนียมที่ผู้ประกอบการขนส่งต้องแบกรับจากการขนส่งสินค้า ช่วยอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น และผลักดันให้การส่งออกเติบโตตามนโยบายรัฐบาล

ส่วนหน่วยงานความมั่นคงชายแดน นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เฝ้าระวังการลักลอบสินค้าผิดกฎหมาย และยาเสพติดอย่างเข้มงวด ควบคู่ไปกับการอำนวยความสะดวกแก่การค้าและการเดินทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ ขอให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันการส่งเสริมสินค้าท้องถิ่น และการจับคู่ธุรกิจข้ามแดน เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ และให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ต้องบูรณาการข้อมูลข่าวสารร่วมกันเพื่อให้การบริหารจัดการการค้าชายแดนมีประสิทธิภาพ

การขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยและสปป.ลาว มอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พัฒนาพื้นที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 (นครพนม - คำม่วน) ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดนครพนมต่อไป

Advertisement

แชร์
นายกฯ สั่งเร่งรัดศูนย์ขนส่งชายแดน One Stop Service