กมธ. เรียกตำรวจชี้แจงการสลายชุมนุม เผยเป็นไปตามกฎหมาย อ้างฉีดน้ำ-ใช้แก๊สน้ำตา เนื่องจากเหตุการเริ่มรุนแรง ควบคุมไม่ได้
วันที่ 12 พ.ย. ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกมธ. เป็นประธานในการประชุม เชิญ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย รองผู้บัญชากาตำรวจนครบาล และพล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เข้าร่วมชี้แจงในกมธ.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตำรวจยอมรับใช้น้ำผสมแก๊สน้ำตาสลายม็อบ 16 ตุลา ยันไม่อันตราย
- นาทีเดือด! ฉีดน้ำสารเคมีใส่ม็อบ พระจับแผงเหล็กช่วยสกัด ชาวบ้านนั่งไหว้หยุดรุนแรง (คลิป)
- ด่วน! เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม ชุดคุมฝูงชนดันติดประชิด
- ตร.ยันคืนนี้ไม่มีฉีดน้ำสลายชุมนุม ให้มวลชนส่งตัวแทนยื่นข้อเรียกร้อง
ภายหลังการประชุม นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ .ส. สงขลา พรรคภูมิใจไทย โฆษก กมธ.การตำรวจ แถลงข่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาและสามารถสรุปได้ว่าการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการปฎิบัติภายใต้กฎหมายที่บัญญัติไว้ โดยได้คำนึงถึงหลักเกณฑ์ มีการบังคับใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักซึ่งเป็นไปตามสากล การดำเนินการในแต่ละขั้นตอนมีการประกาศแจ้งเตือนผู้ชุมนุมให้ทราบทุกครั้ง เริ่มจากการแจ้งเตือนว่าการชุมนุมผิดกฎหมาย และขอความร่วมมือให้เลิกการชุมนุม หากไม่ได้รับความร่วมมือและผู้ชุมนุมมีพฤติการณ์ที่จะใช้ความรุนแรงเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความจำเป็นที่ต้องใช้อุปกรณ์ที่จัดเตรียมมาเพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดความรุนแรง ซึ่งจะมีหลักเกณฑ์ในการปฎิบัติและขั้นตอนอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตามที่ประชุมกมธ. ได้มีข้อเสนอเกี่ยวกับการดำเนินการควบคุมการชุมนุม ของสำนักงานตำรวจแห่งชาคิ คือ
1.กรณีที่ผู้ชุมนุมและบุคคลที่มีความเห็นต่างกับผู้ชุมนุม เข้าไปอยู่กลุ่มชุมนุม ทางตำรวจควรมีแนวทางในการระงับเหตุเพื่อไม่ให้เหตุการณ์มีการใช้ความรุนแรง
2.สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรมีการสาธิต หรือประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับขั้นตอนในการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ประชาชนได้รับทราบ
3.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรใช้วิธีการที่ละมุนละม่อมต่อผู้ชุมนุม เพื่อไม่ให้เหตุการณ์มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
ด้านนายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะรองประธานกมธ.การตำรวจ กล่าวว่า กมธ.ได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงขั้นตอนต่าง ๆ ในการควบคุมการชุมนุมว่าเป็นไปตามขั้นตอนหลักสากล โดยเฉพาะสารเคมีที่ใช้ผสมน้ำฉีดใช้ผู้ชุมนุมคือ สารเมทิลไวโอเลตทูบี ไม่มีอันตราย เพราะใช้อย่างเจือจางเพียงแค่ 3% เพื่อให้ระบุตัวตนว่า เป็นผู้มาร่วมการชุมนุม แต่เมื่อไม่สามารถหยุดผู้ชุมนุมได้ จึงเปลี่ยนมาใช้เป็นน้ำผสมแก๊สน้ำตาฉีดใส่ผู้ชุมนุม ซึ่งใช้ในปริมาณเจือจาง 3% เป็นไปตามมาตรการควบคุมการชุมนุม ซึ่งยูเอ็นก็ใช้สารชนิดเดียวกัน
อย่างไรก็ตามกมธ.ให้ข้อสังเกตตำรวจไปว่า ถึงแม้จะสารเคมีที่ใช้จะเป็นปริมาณเจือจาง แต่อยากให้คำนึงถึงผลกระทบจากการใช้สารเคมี เพราะถ้าเกิดเข้าปากอาจสร้างผลกระทบได้ และได้ให้ตำรวจจัดมาตรการดูแลในส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ส่วนสาเหตุที่ต้องฉีดน้ำใช้สลายการชุมนุมนั้น ตำรวจชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 16 ต.ค 63 เนื่องจากเริ่มมีความรุนแรงที่ส่อไปในทางควบคุมไม่ได้ เริ่มมีการปะทะระหว่างการ์ดกับเจ้าหน้าที่ จึงเริ่มมีการใช้น้ำฉีดสกัด แต่เมื่อไม่ได้ผลจึงเพิ่มระดับมากขึ้น ส่วนเหตุการณ์ที่สนามหลวงเพราะผู้ชุมนุมเริ่มตัดรั้วลวดหนาม ขยับการชุมนุมเข้าไปใกล้พื้นที่ควบคุม ถ้าปล่อยให้เข้าไปอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ จึงฉีดน้ำสกัด เป็นการฉีดในวิถีโค้ง เมื่อฉีดไปแล้วผู้ชุมนุมก็ไม่ได้รุกคืบเข้าไป ยืนยันว่าถ้าไม่มีการลุกลามข้อกฎหมายชัดเจนก็ไม่มีการฉีดน้ำสลายชุมนุม
Advertisement