วันที่ 6ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าได้มีชาวบ้านและนักแสวงหาของเก่าพากันนำจอบเสียมไปยังวัดธาตุฝุ่น ชุมชนบ้านน้อยใต้เขตเทศบาลเมืองนครพนมเพื่อขุดคุ้ยค้นหาวัตถุมงคลเป็น เหรียญสมโภชพระธาตุพนม พ.ศ.2518 กันเป็นจำนวนมาก
พบว่าบริเวณหน้าศาลาการเปรียญวัดดังกล่าว มีรถจักรยานยนต์และรถยนต์จอดเรียงรายกันราวกับมีงานรื่นเริงโดยเฉพาะใต้ร่มไม้ใกล้กับพระพุทธรูปชาวบ้านทั้งชายหญิงและเด็กกลุ่มใหญ่ราว 40-50 คน นำอุปกรณ์ที่นำมาขุดคุ้ยกองอิฐเก่าท่ามกลางสายฝนตกโปรยปราย
สอบถามเบื้องต้นหลังมีข่าวแพร่สะพัดว่าที่ วัดธาตุฝุ่น พบกรุพระธาตุพนมปะปนอยู่เศษอิฐเศษปูนที่ขนมาจากบ้านอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ซึ่งได้เกษียณอายุราชการไปแล้วเมื่อ 20 กว่าปีก่อน โดยรับราชการเป็นนายอำเภอเมืองนครพนม ก็มีบ้านพักส่วนตัวอยู่ที่หลังวัดกลางถนนศรีเทพ ใจกลางเมืองนครพนมต่อมาขยับขึ้นเป็นปลัดจังหวัดนครพนมและย้ายขึ้นไปเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีจนเกษียณอายุราชการ ภายหลังบ้านหลังดังกล่าวไม่มีใครอยู่ปล่อยให้เป็นบ้านร้างนานหลายปี
กระทั่งประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา บริเวณห้องนอนของอดีตรองผู้ว่าฯ ท่านนี้เกิดทรุดตัวลง ท่านได้โทรศัพท์ให้ลูกหลานเข้าไปเอาเหรียญพระธาตุพนมปี 2518 โดยบอกว่าเก็บไว้อยู่ในห้องพระ เมื่อลูกหลานเข้าไปตรวจในห้องพระที่ไม่ได้ทรุดตัวลงไปด้วยก็ไม่เห็นเหรียญพระธาตุพนมตามที่รองผู้ว่าฯ กล่าวถึง
มาทราบภายหลังที่เจอเหรียญพระธาตุพนมว่าท่านไม่ได้เก็บไว้ในห้องพระแต่กลับเก็บไว้ในห้องนอนที่ทรุดตัวลง ญาติสันนิษฐานว่าท่านน่าจะหลงลืมตามวัย
ขณะเดียวกันได้มีเซียนพระจำนวนหนึ่งได้นำเงินสดจำนวนหลายหมื่นบาทมาตั้งโต๊ะรอรับซื้อเหรียญพระธาตุพนมรุ่นดังที่ขุดค้นได้เป็นวันที่ 4 แล้วส่งผลให้บรรยากาศการซื้อ-ขายวัตถุมงคลรุ่นนี้คึกคักเป็นพิเศษ ขณะที่ชาวบ้านที่ยังคงก้มหน้าก้มตาค้นหาเหรียญพระธาตุพนมรุ่นนี้กันอย่างหนาตา
นายแลง สุวรรณศรี อายุ 66 ปี กรรมการวัดธาตุฝุ่นเล่าว่าเมื่อ 4 วันที่แล้วได้มีผู้รับเหมารื้อบ้านอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ซึ่งเป็นบ้านเก่าลักษณะครึ่งปูนครึ่งไม้ที่พังถล่มอยู่หลังวัดกลาง โดยจะนำเศษปูนไปทิ้งจุดอื่นพระอธิการนิรันดร์เจ้าอาวาสวัดธาตุฝุ่นทราบข่าวจึงขอให้ผู้รับเหมานำเศษปูนมาเทไว้หน้าศาลาการเปรียญวัดราว 4-5 รถบรรทุก 6 ล้อเพื่อจะใช้รถไถเกรดไปถมสระน้ำที่อยู่ใกล้กัน
กรรมการวัดวัย 66 ปี เล่าต่อว่าได้มีคนหาของเก่าขายนำค้อนมาทุบซากปูนเพื่อจะนำเหล็กเส้นไปขายขณะคุ้ยเขี่ยก่อนทุบได้พบวัตถุมงคลเป็นเหรียญพระธาตุพนมรุ่นสมโภช พ.ศ.2518 จำนวน 2-3 เหรียญซุกในซากอิฐจึงใช้เสียมคุ้ยอีกก็พบวัตถุมงคลรุ่นดังกล่าวในถุงผ้านับได้ 200 เหรียญด้วยความไม่รู้ว่ามีราคาแพง จึงแจกจ่ายให้ผู้ที่มาทุบด้วยกันไปจำนวนหนึ่ง
ด้านพระอธิการนิรันดร์เจ้าอาวาสวัดกล่าวว่าหลังคนหาของเก่าไปทุบอิฐแล้วพบวัตถุมงคลนับร้อยเหรียญจนข่าวแพร่สะพัดออกไปจึงมีคนเข้ามาค้นหาและเซียนพระเครื่องก็มารอรับซื้อราคาเหรียญละ 4,000 บาท
ด้านนายหน่องอายุ 45 ปีเซียนพระที่ตั้งโต๊ะรับบูชาเหรียญสมโภชพระธาตุพนมปี 18 กล่าวว่าพกเงินสดมาจำนวน 4-5หมื่นบาท เพื่อมารับซื้อเหรียญพระธาตุพนมรุ่นนี้ราคาองค์ละ 4,000บาท ตอนนี้รับซื้อไว้ 7 เหรียญหมดเงินไป 28,000 บาท ชาวบ้านที่มาขุดค้นได้วัตถุมงคลคนละเหรียญสองเหรียญบางรายได้ 5-7 เหรียญ แต่ที่มากสุดคือคนหาของเก่ารายแรกที่ได้มากถึง 200 เหรียญวัตถุมงคลที่ขุดพบเริ่มจะหายากคาดว่าราคาจะขยับไปที่เหรียญละ 5,000-6,000 บาท ซึ่งตนก็ยังคงปักหลักรับซื้อต่อไปเพราะเป็นเหรียญพระธาตุพนมรุ่นดังมีพระเกจิคณาจารย์ในยุคนั้นปลุกเสกเชื่อว่ามีพุทธคุณเข้มขลังและหาได้ยากยิ่งเป็นที่ต้องการของนักสะสมในปัจจุบัน
ที่มาของเหรียญสมโภชพระธาตุพนมปี 2518 จัดสร้างขึ้นหลังวันที่ 11 สิงหาคม 2518 โดยองค์พระธาตุพนมปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ได้ล้มครืนพังทลายลงได้สร้างความเศร้าสลดให้กับพุทธศาสนิกชนไทยทั้งประเทศ ซึ่งรัฐบาลม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรีจึงได้จัดงานพระราชพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุและพระบรมสารีริกธาตุอื่นๆอีก115องค์อัญเชิญประดิษฐานในพลับพลาพิธีซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่รวม 7 วัน 7 คืน ในระหว่างวันที่ 26ธ.ค.2518-1ม.ค.2519 ถือเป็นงานสมโภชระดับชาติที่มีพิธีทางพระพุทธศาสนาและพิธีทางบ้านเมืองไปพร้อมกัน
โดยนายพิศาล มูลศาสตรสาทร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้จัดสร้างเหรียญที่ระลึก "เหรียญสมโภชพระธาตุพนม" กำหนดสร้าง 50,000 เหรียญแต่บล็อกพิมพ์เกิดแตกเสียก่อนจึงสร้างได้เพียง 37,427 เหรียญในจำนวนนี้มีเนื้อเงิน 99 เหรียญเนื้อทองแดงเจดีย์กลม 500 เหรียญที่เหลือเป็นเนื้อทองแดงเจดีย์รูปทรง 8 เหลี่ยม
ทั้งนี้เหรียญสมโภชพระธาตุพนมนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่ลานต้นศรีมหาโพธิภายในวัดปลุกเสกโดยคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมจากสำนักต่างๆจำนวน 9 รูปหนึ่งในนั้นมีพระอาจารย์ฝั้นอาจาโรพระเกจิชื่อดังร่วมในพิธีแผ่เมตตาจิต
วัตถุประสงค์ตั้งใจจะแจก"เหรียญสมโภชพระธาตุพนม "ในงานพระราชพิธีดังกล่าวแต่ภายหลังได้รับความนิยมสูงจึงเปลี่ยนให้เช่าบูชาเพื่อนำปัจจัยมาบูรณะองค์พระธาตุพนมต่อมาได้สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2522
ด้านหน้าเหรียญประดิษฐานพระธาตุพนมมีเปลวรัศมี บริเวณยอดฉัตรนับได้ 24 เปลว ถ้าสังเกตให้ดีบริเวณเปลวรัศมีระหว่างช่องที่ 6-7 เฉพาะเนื้อทองแดงจะพบรอยนูนเป็นตำหนิซึ่งมีสาเหตุที่บล็อกเริ่มแตกปริและพิมพ์ไม่ครบตามจำนวนด้านหลังมีตัวหนังสือนูนระบุจุดประสงค์ในการสร้างไว้
เหรียญสมโภชพระธาตุพนมปี 2518 รุ่นนี้ได้รับการกล่าวขานว่ามีประสบการณ์สูงด้านแคล้วคลาดคงกระพันชาตรีเป็นที่นิยมในหมู่ทหารตำรวจตชด.และนรข.ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสมรภูมิจากราคาเช่าบูชา 10-20 บาทในสมัยนั้น
ปัจจุบันเหรียญพระธาตุพนมสภาพสวยๆ มีราคาประมาณการอยู่ที่ 12,000-17,000 บาทเป็นวัตถุมงคลที่เชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองและมีพุทธานุภาพสูง
Advertisement