สำหรับเงื่อนไขการใช้สิทธิ ทัวร์เที่ยวไทย มีดังนี้
- ประชาชน ต้องติดต่อผู้ประกอบการนำเที่ยวโดยตรง เพื่อจองแพ็คเกจทัวร์ ที่จะมีการเปิดขายทั้งหมด 30 รายการนำเที่ยว อาทิ แพ็คเกจทัวร์ราคา 12,500 บาท จะได้รับสิทธิส่วนลดรัฐช่วยจ่าย 40% หรือสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาทแล้ว เท่ากับว่าผู้ใช้สิทธิจะต้องจ่ายค่าแพ็คเกจเอง 7,500 บาทเท่านั้น แต่ถ้าซื้อแพ็คเกจทัวร์ราคา 5,000 บาท จะได้รับสิทธิรัฐช่วยจ่าย 40% คิดเป็น 2,000 บาท เท่ากับว่าประชาชนต้องจ่ายเงินเอง 3,000 บาท
- ไม่สามารถใช้สิทธิซื้อแพ็คเกจทัวร์เพิ่มในภายหลัง เพื่อให้ได้รับส่วนลดจากรัฐช่วยจ่ายถึงเพดานสูงสุด 5,000 บาท เพราะจำกัดให้เพียง 1 คนต่อ 1 สิทธิเท่านั้น
- รายการนำเที่ยวที่เลือกซื้อ ต้องเป็นการเดินทางข้ามจังหวัดเท่านั้น เดินทางได้ทุกวัน
- ไม่จำกัดว่าต้องเป็นการเดินทางเฉพาะวันธรรมดา แต่ไม่สามารถใช้แพ็คเกจท่องเที่ยวของโครงการทัวร์เที่ยวไทยในช่วงเวลาเดียว
กับการเข้าพักโรงแรมที่พักของโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ได้
- มีบัตรประจำตัวประชาชน และเป็นบุคคลสัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ไม่สามารถใช้แพ็คเกจท่องเที่ยวของโครงการทัวร์เที่ยวไทยในช่วงเวลาเดียวกับการเข้าพักโรงแรม/ที่พัก ของโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ได้
วิธีารใช้สิทธิในโครงการทัวร์เที่ยวไทย
ขั้นที่ 1 ติดตั้งแอปฯเป๋าตัง ผูก G Wallet เพื่อรับสิทธิตามโครงการ
ขั้นที่ 2 ประชาชนติดต่อผู้ประกอบการนำเที่ยวโดยตรงเพื่อจองแพ็คเกจ (จองแพ็คเกจก่อนเดินทาง 7 วัน ใช้ได้เพียง 1 สิทธิ/คน รัฐสนับสนุนไม่เกิน 5,000 บาทต่อคน)
ขั้นที่ 3 ผู้ประกอบการนำเที่ยวตรวจสอบแพ็คเกจ และทำรายการผ่านทาง ถุงเงิน
ขั้นที่ 4 ประชาชนรับการ แจ้งเตือน ชำระเงินค่าแพ็คเกจ 60% ผ่าน G Wallet "เป๋าตัง" (หากไม่มีการชำระเงินภายในเวลา 23.59 น. ของวันที่ทำการจองระบบจะยกเลิกการจองอัตโนมัติ)
ขั้นที่ 5 เช็คอิน ณ จุดนัดพบ ที่กำหนดโดยผู้ประกอบการนำเที่ยว เมื่อถึงวันเดินทาง จะต้องดำเนินการ ดังนี้
- สแกน QR เช็คอินบนแอปฯเป๋าตัง
- สแกนหน้าบนแอปฯถุงเงิน ของผู้ประกอบการนำเที่ยวทั้งจังหวะเช็คอินและเช็คเอ้าท์
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบพบว่า สิทธิคงเหลือในโครงการ ทัวร์เที่ยวไทย ยังคงอยู่ที่ 1 ล้านสิทธิ
- เช็กเลย! เราเที่ยวด้วยกัน เฟส3 - ทัวร์เที่ยวไทย ได้สิทธิอะไรบ้าง?
Advertisement