วันนี้ (19 ต.ค. 64) เวลา 10.00 น. ที่บริเวณถนนสายเลี่ยงตัวเมืองราชบุรี ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี มีขบวนรถบรรทุกกว่า 80 คัน มาจอดต่อกันเป็นขบวนยาว แสดงพลังเพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวได้ช่วยราคาน้ำมันลง ซึ่งด้านข้างรถนั้นมีการติดป้ายข้อความว่า ประชาชนต้องแย่แน่ ถ้าไม่คิดแก้ราคาน้ำมัน, น้ำมันขึ้นราคา คือน้ำตาประชาชน, ปรับลงราคาเท่ากับเช็ดน้ำตาประชาชน และโควิดพ่นพิษเศรษฐกิจพัง น้ำมันยังขึ้นราคา ติดบริเวณด้านข้างรถบรรทุก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง และเจ้าหน้าที่ขนส่ง จ.ราชบุรี มาคอยดูแลความสงบเรียบร้อย
จากการสอบถามนายบุญชู กัลยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการสมาคมรถบรรทุกภาคคะวันตก เผยว่า การมารวมตัวของคนขับรถบรรทุกในวันนี้ ไม่ได้เป็นการประท้วง และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด แต่เป็นการแสดงพลังและเป็นการแสดงสัญลักษณ์ให้ภาครัฐได้รับรู้ว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน เราต้องการแสดงให้เห็นถึงความเดือดร้อนของภาคการขนส่งและภาคประชาชนทั่วประเทศ เพราะราคาน้ำมันนั้นเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ซึ่งกระทบกับทั้งค่าครองชีพและการดำรงชีวิตประจำวันทุกอย่าง ซึ่งประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากพิษโควิด ก็จะแย่อยู่แล้วแต่ต้องมาเดือดร้อนจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นมาอีก ซึ่งเราได้ไปยื่นหนังสือแล้วโดยมีข้อเสนอขอให้ตรึงราคาน้ำมันอยู่ที่ลิตรละ 25 บาท เป็นระยะเวลา 1 ปี แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากทางภาครัฐว่าจะสามารถรับข้อเสนอเราได้ไหม ซึ่งทางภาครัฐขอเวลา 7 วัน ว่าจะสามารถทำตามข้อเสนอเราหรือไม่ แต่เราก็จะต้องแสดงพลังเพราะคิดว่าโอกาสน่าจะไม่มีความเป็นไปได้
นายบุญชู เผยอีก่า ถ้าหากเรายังไม่ได้รับการแก้ไขทางผู้ประกอบการรถบรรทุกก็จะมีการยกระดับการแสดงพลังต่อไปอีก ไม่ใช่จะมีแค่เฉพาะภาคตะวันตกเท่านั้นแต่จะเป็นการรวมตัวทั่วประเทศ มีทั้งหมด 10 สมาคมสินค้า ภายใต้สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ซึ่งมีรถบรรทุกรวมแล้วกว่า 1 ล้านคัน ซึ่งวันนี้เรารวมตัวที่ราชบุรี และจะเดินทางไปรวมกับอีก 6 เส้นทาง เพื่อไปรวมตัวกันที่บริเวณถนนกาญจนาภิเษก กรุงเทพฯ จากนั้นก็จะแยกย้าย ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการแสดงพลังในระดับแรก และจะยกระดับขึ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าทางภาครัฐจะดำเนินการให้ตามมีการร้องขอ
จากนั้นขบวนรถบรรทุกกว่า 80 คัน ได้เคลื่อนขบวนออกจากถนนสายเลี่ยงเมืองราชบุรี มุ่งหน้าสู่ถนนพระราม 2 และจะไปรวมกับอีกหลายจังหวัดที่มาจากภาคใต้ และมุ่งหน้าสู่ถนนกาญจนาภิเษก กรุงเทพฯ
Advertisement