วันนี้ (22 ก.พ.65) นายชนัญชัย อายุ 27 ปี หนุ่มเซลส์ ชาวอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นารอง โดยให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าได้ถูกสาวสวยคนหนึ่ง ชื่อ กุ้ง (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี หลอกให้หลงรักและหลอกให้โอนเงิน ซื้อทองให้หมดเงินไป 75,000 บาท แต่สุดท้ายฝ่ายหญิงกลับบล็อกช่องทางการติดต่อทั้งมือถือ และเฟซบุ๊ก จากนั้นทางพนักงานสอบสวนก็ได้โทรศัพท์ติดต่อฝ่ายหญิงเพื่อให้มาพูดคุยไกล่เกลี่ยกันที่โรงพัก แต่พอฝ่ายหญิงเดินทางมาถึง สภ.นางรอง ทันทีที่เห็นนายเจนยืนอยู่ที่ศาลาด้านหน้าโรงพัก ฝ่ายหญิงก็เดินตรงเข้าไปต่อว่าฝ่ายชายด้วยความโมพอใจแล้วได้กระโดดถีบฝ่ายชายไป 1 ครั้ง ทั้งถอดรองเท้าพยามยามจะเข้าไปตีฝ่ายชายอีก ซึ่งฝ่ายชายก็ไม่ได้มีท่าทีจะตอบโต้อะไร ขณะเดียวกันก็มีคนห้ามและบอกให้ไปคุยกันบนโรงพัก ก่อนที่ทั้งคู่จะขึ้นไปพูดคุยกันบนโรงพัก
จากการสอบถามนายเจน เล่าให้ฟังว่า เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา เพื่อนได้แนะนำให้รู้จักกับ น.ส.กุ้ง ซึ่งตนเห็นแล้วก็รู้สึกชอบ จึงได้ทักเฟซบุ๊กไปคุยด้วย จากนั้นก็แชตและโทรคุยกันมาเรื่อย บางครั้งก็นัดกินข้าวด้วยกัน แล้วฝ่ายหญิงก็เริ่มเอ่ยปากขอเงินตนเองบอกว่าจะเอาไปจ่ายค่าโน่น ค่านี้บ้าง ด้วยความที่ตนเองชอบและคิดว่าฝ่ายหญิงจะชอบตนเองเหมือนกัน ก็โอนเงินให้หลายครั้ง กระทั่งวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ก็นัดไปกินข้าวกันแล้วตนก็ซื้อแหวนทอง ราคา 7,800 บาท ให้ฝ่ายหญิงอีก 1 วง รวมๆ แล้ว ทั้งเงินที่โอนไปให้และแหวนทองที่ซื้อให้ก็ประมาณ 70,000 กว่าบาท แต่พอมาวันนี้ได้นัดจะไปทำบุญด้วยกันแล้วหลังจากทำบุญเสร็จก็จะไปรีสอร์ตตามประสาหนุ่มสาวที่คบหากัน แต่ฝ่ายหญิงกลับบล็อกการติดต่อไปเลย ตนจึงคิดว่าฝ่ายหญิงไม่ได้จริงใจน่าจะหลอกเอาเงินตนเอง จึงได้มาแจ้งความ
นายเจน ยังบอกอีกว่า ตนจริงใจกับฝ่ายหญิงตั้งใจจะคบหาเป็นแฟน แต่ฝ่ายหญิงกลับทำเหมือนไม่ได้จริงใจกับตนเอง ก็รู้สึกเสียใจ เงินที่เสียไปก็เป็นเงินเก็บจากที่ตนทำงาน แต่ก็ไม่ได้เสียดายแต่เสียความรู้สึกมากกว่า แต่ในเมื่อฝ่ายหญิงบอกว่าไม่ได้รักก็คงต่างคนต่างจบกันแค่นี้
ด้าน น.ส.กุ้ง บอกว่า ฝ่ายชายเป็นคนทักมาหาแต่ตนบอกว่าไม่ได้ชอบ แต่ฝ่ายชายก็บอกว่าขอโอกาสหน่อย ตนก็เลยบอกว่าอยากคบก็คบแต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่าคบเป็นแฟนกันแค่ลองคุยกันดู จากนั้นเขาก็ทักเฟซบุ๊ก ทักไลน์มาชวนไปกินข้าว ตนก็บอกว่าขอเงินหน่อยสัก 1,000-2,000 บาท พอออกไปกินข้าวกับเขาก็เป็นฝ่ายโอนเงินให้ ส่วนวันวาเลนไทน์ตนก็พูดว่าวันวาเลนไทน์จะได้อะไร เขาก็บอกว่าเดี๋ยวจะพาไปซื้อแหวน จากนั้นเขาก็พาไปซื้อแหวนทองที่ร้านทองซึ่งเขาก็ซื้อให้เอง ส่วนที่ฝ่ายชายบอกว่าตนเองหลอกให้โอนเงินนั้นไม่เป็นความจริง เพราะเขาโอนให้เองด้วยความเสน่หาตนไม่ได้บังคับ และยอดที่โอนมาก็ไม่ใช่ 70,000 กว่าบาทตามที่เขากล่าวอ้าง ตนมีสลิปหลักฐานว่าเขาโอนมาให้แค่ประมาณ 30,000 บาท ซึ่งหลังจากพูดคุยไกล่เกลี่ยกันตนจะยอมจ่ายเงินคืนให้เขา 4,000 บาทตามที่เอ่ยปากขอยืมเท่านั้น โดยจะผ่อนจ่ายให้ภายใน 2 เดือน และขอยืนยันว่าไม่ได้หลอกลวงเงินที่โอนมาเขาให้ด้วยความเสน่หา แต่ที่ตนเองรับไม่ได้และไม่ชอบคือฝ่ายชายพยายามจะรุกเร้าขอมีเซ็กซ์ ซึ่งจริงๆ หากจะคบหากันก็ควรจะต้องใช้เวลาพูดคุยดูใจกันก่อน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตำรวจ และทนายอาสา เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยกับทั้งสองฝ่ายก็จบลงกันได้ด้วยดี ฝ่ายหญิงก็พร้อมจะคืนเงิน 5,000 บาทที่เอ่ยปากขอยืมฝ่ายชาย ซึ่งฝ่ายชายก็ยอมรับและทั้งสองฝ่ายก็ไม่ติดใจเอาเรื่องซึ่งกันและกัน และยืนยันว่าจะไม่พูดคุยคบหากันอีก
Advertisement