ปอ ตนุภัทร ยอมรับเป็นคนใช้ยา "อัลปราโซแลม" แจงกินเพื่อแก้เครียดหลังเกิดเหตุแตงโมตกเรือ ด้านหมออั้ม แจงฤทธิ์ยา ยันไม่กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ
จากกรณีพันตำรวจโท กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แจ้งผลตรวจสารเสพติดและแอลกอฮอล์ ในพยานบุคคลในคดีนิดา ดาราสาวซึ่งตกสปีดโบ๊ตเสียชีวิต จำนวน 3 ราย พบ 1 รายตรวจพบสารกลุ่มเบนโซไดอาซิปินส์ ชนิดอัลปราโซแลม (Alprazolam)ซึ่งถูกนำมาใช้งานอย่างไม่ถูกวิธี จนถูกเรียกว่า "ยาเสียสาว" ทำให้สังคมตั้งคำถามว่าผู้ที่พบสารดังกล่าวเป็นใครนั้น
ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ค.65) หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรและผู้ประกาศข่าวชื่อดัง เปิดเผยในรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ระบุว่า ได้สอบถาม ปอ ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ เจ้าของเรือและ 1 ในผู้ตองหาคดีแตงโมถึงกรณีดังกล่าว
นายตนุภัทร ยอมรับว่า พยานบุคคลที่ตรวจพบอัลปราโซแลมคือตนเอง เป็นการกินเพื่อแก้เครียด เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์บนเรือตนนอนไม่ได้ จึงให้ลูกน้องไปเอายามาจากคลินิกแห่งหนึ่ง โดยใช้ในขนาด 0.5 มิลลิกรัม ก่อนที่จะเข้าตรวจร่างกายในเวลาต่อมา
ขณะที่ผศ.นพ.สุวิทย์ เจริญศักดิ์ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ให้ข้อมูลเกี่ยวกับยาเสียสาว หรือยาอัลปราโซแลมไว้ว่า ในทางการแพทย์ใช้เพื่อบรรเทาหรือรักษาอาการวิตกกังวลและอาการตื่นตระหนก หรือใช้เป็นยานอนหลับในกรณีที่จำเป็น แต่มีการนำไปใช้ในทางี่ผิด เช่น นำไปใช้เป็นยานอนหลับอย่างแรงเพื่อล่วงละเมิดทางเพศ หรือนำไปผสมในสารเสพติด เนื่องจากหลังรับประทานยาอาจมีอาการหลงลืม โดยจะจำเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ได้
ด้านหมออั้ม อิราวัต อารีกิจ อดีตนักร้องและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ออกมาโพสต์ให้ข้อมูลเรื่องยาอัลปราโซแลม Alprazolam ระบุว่า เรื่องยา Alprazolam ซึ่งชื่อทางการค้า ยี่ห้อที่คุ้นหูสุดคือ Xanax ประเด็นอยู่ที่สื่อเล่นคำว่าเป็นยาเสียสาว หรือยาเสียตัว จนกลายเป็นความเชื่อผิดๆ แท้จริงแล้วเป็นยารักษาอาการวิตกกังวล อาการแพนิก (ตื่นตระหนก) รวมไปถึงโรคซึมเศร้า บางครั้งใช้เป็นยานอนหลับในกรณีที่จำเป็น โดยตัวยาจะไม่มีสี ไม่มีกลิ่นและแน่นอนว่ายาในกลุ่มนี้ไม่ได้มีฤทธิ์กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ
ผู้ใช้หากรับประทานเองก็จะมีอาการง่วงซึม และเป็นยาอันตราย หากทานร่วมกับยาอื่นๆ โดยเฉพาะหากใช้ร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่การใช้ร่วมกับยาเสพติดชนิดอื่นๆ การใช้ในทางอาชญากรรมกับบุคคลอื่น ใช้เพื่อหวังผลให้ผู้อื่นง่วง หลับ ซึม เบลอ หรือตื่นมาพร้อมกับความทรงจำระยะสั้นที่หายไป เพื่อก่ออาชญากรรมในทรัพย์สินและร่างกาย
กรณีที่เป็นข่าวดังในขณะนี้ หากเป็นการตรวจ ณ วันเกิดเหตุ หากร่างผู้เสียชีวิตไม่มี Alprazolam ในร่างกาย โอกาสจะเป็นอาชญากรรมในประเด็นเรื่องยาก็จะน้อยลง ในมุมของการมอมยา เพราะแค่ตรวจพบในร่างกายผู้ต้องหา บอกอะไรไม่ได้มากบอกได้แค่ว่ามีการใช้ยาและแน่นอนว่าใช้กับตัวเขาเอง ด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่หากเป็นกรณีตรวจพบยาในร่างผู้เสียชีวิตจะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่พลิกคดีได้ และแน่นอนว่าผลจะคลาดเคลื่อนสูง หากไม่ได้รับการตรวจแบบทันท่วงที
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พบ "ยาเสียสาว" ในพยานบุคคลบนเรือ 1 ราย
- "แอนนา" แจงดราม่า ยอมรับพูดไม่เหมือนเดิม ปมสภาพร่างแตงโม โชว์เบื้องหลังทำอะไร
- จิน เดอะวอยซ์ พิสูจน์เสียงปริศนา "เอาเพื่อนมานี่" โยงคนเจอศพแตงโม ชี้แค่คล้าย
Advertisement