ย้อนไทม์ไลน์ "เมาน์เทน บี" ครบรอบ 1 เดือน ครอบครัวผู้เสียหายไว้อาลัย เรียกร้องเงินเยียวยาขอความยุติธรรม ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังหาไม่เจอ
เวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 5 สิงหาคม 2565 เกิดเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิง เมาน์เทน บี (Mountain B) ในพื้นที่ ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้ซึ่งในคืนนั้น มีการแสดงของ DJ ONE & DJ Tiger และวงดนตรี แต๋วแหว๋ว ซึ่งเป็นที่นิยมในพื้นที่ ทำให้คืนนั้นมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เข้าไปใช้บริการและชมการแสดงดนตรี
แต่ภาพที่หลายคนยังคงจดจำได้ติดตา กลับไม่ใช่ภาพช่วงเวลาแห่งความสุข เป็นภาพของนักท่องเที่ยวและคนที่อยู่ในผับดังกล่าว กำลังวิ่งหนีตายออกมาจากผับ
หลังเกิดเพลิงไหม้และลุกลามอย่างรวดเร็ว ยิ่งน่าสะเทือนใจ เมื่อได้เห็นว่าบางคนในขณะวิ่งหนีออกมา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไฟไหม้ติดเสื้อผ้า ลามไปยังเนื้อตัวของตน
เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที่ 13 คน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่ผู้บาดเจ็บมีอีกกว่า 50 คน หลายคนที่อาการสาหัสและไปเสียชีวิตเพิ่มระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาล จนทำให้ยอดผู้เสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2565 ถึงวันที่ 2 กันยายน 2565 มีมากถึง 23 ราย
สาเหตุของเพลิงไหม้ แม้จะยังไม่มีการสรุปชัดเจน แต่จากการตรวจสอบพบว่าอาคารถูกดัดแปลงต่อเติมให้กลายเป็นอาคารปิดโดยผิดกฎหมาย ในขณะที่เจ้าของร้านให้ข้อมูลกับตำรวจว่าในวันก่อนหน้าได้มีช่างไฟเข้ามาซ่อมแซมและเดินสายระบบไฟบนเพดาน ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่านี่คือสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ ที่สำคัญจากการสอบสวนยังพบว่าสถานบริการแห่งนี้ เปิดให้บริการโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต
คดีนี้ นำไปสู่การออกหมายจับ ผู้ต้องหา 3 คน คือ นายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือ เสี่ยบี อายุ 28 ปี เจ้าของ เมาท์เทน บี และ นางอนงค์นาถ ปั้นประสงค์ ภรรยาเสี่ยบี ในข้อหา 1. ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย สาหัส และ 2. เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อมาศาลได้พิจารณาประกันตัวทั้งคู่ตีราคาประกันตัว 300,000 บาท พร้อมทั้งติดกำไล EM และกำหนดเงื่อนไข 1.ห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเหตุร้ายประการอื่น 2.ให้ผู้ต้องหามารายงานตัวเมื่อครบฝากขังครั้งที่ 2 ครั้งที่ 4 และครั้งที่ 7
หลังจากนั้นไม่นานก็มีการออกมายจับ นายสมยศ หรือเสี่ยยศ อายุ 55 ปี พ่อของเสี่ยบี โดยแจ้งข้อหาเดียวกัน เนื่องจากสืบทราบว่าเป็นเจ้าของผับตัวจริง ซึ่งนายสมยศได้ยื่นขอประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์ 1 ล้านบาท
ขณะที่วันนี้ (5 กันยายน 2565) ครบรอบ 1 เดือน ของเหตุการณ์เพลิงไหม้ “ผับเมาน์เทน บี” ฝั่งครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ได้รวมตัวกันเดินทางไปทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ และยืนไว้อาลัยแก่ผู้จากไป ท่ามกลางบรรยากาศความเศร้าโศก โดย เรือตรีภูรี นีน้อย
พ่อของ 1 ในผู้เสียชีวิต บอกว่า เหตุการณ์นี้กำลังจะถูกลืม ทุกคนอาจจะไม่ได้รับการเยียวยาช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม จึงอยากเรียกร้องให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บรวมตัวแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของ ฐานต่อเติมอาคาร แปลงสภาพเป็นสถานบันเทิงแบบปิด และในความผิดอื่นๆ เพื่อเป็นการต่อสู้ทางกฏหมายให้ดำเนินคดีอย่างเป็นธรรม
ขณะที่ นางสาวรัชสิกา 1 ในผู้บาดเจ็บ บอกว่า ปัจจุบันมีแผลถูกไฟคลอกบริเวณด้านหลังและแขนทั้งสองข้าง ต้องทำกายภาพบำบัด อีกทั้งยังตกงานขาดรายได้ โดยได้รับเงินเยียวยาจากเจ้าของผับเพียง 6 หมื่นบาท เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เกืดขึ้นกับร่างกายของตัวเธอ
ด้าน นายรณรงค์ แก้วเพชร ทนายความและประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายติดต่อมาทั้งหมด 33 ครอบครัว จากจำนวนผู้เสียหายทั้งหมด 53 ครอบครัวที่ลงทะเบียนไว้กับทางจังหวัดชลบุรี โดยจำนวนเงินซึ่งญาติและครอบครัวของผู้เสียหายต้องการได้รับการเยียวยา 241 ล้านบาท และทางครอบครัวเรียกร้องขอให้กองบังคับการปราบปรามรับทำคดีนี้ เนื่องจากผ่านไป 1 เดือนตำรวจท้องที่และตำรวจในจังหวัดชลบุรี ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ได้ จึงทำให้การเรียกร้องสิทธิ์ต่างๆ เกิดปัญหาอย่างมาก และหวั่นว่าหากเป็นเช่นนี้ จะเกิดการแทรกแซงคดี จนทำให้ครอบครัวผู้สูญเสียไม่ได้รับความเป็นธรรม
Advertisement