ร้านส้มตำเดือดร้อนหนัก มะละกอวัตถุดิบสำคัญราคาพุ่งสูง จากกิโลกรัมละ 5 บาท ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 25 บาท แต่ละวันแทบไม่เหลือกำไร แม่ค้าไม่กล้าขึ้นราคาหรือลดปริมาณเกรงลูกค้าจะหาย แต่คาดว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่มะละกอจะแพงอย่างนี้
ที่จังหวัดอุทัยธานีผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจราคามะละกอ หลังจากที่บรรดาร้านส้มตำทั่วเมืองอุทัยธานีต่างก็บ่นกันอุบว่าราคามะละกอสูงมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากการสอบถามแม่ค้าที่มาตั้งแผงขายผักเปิดเผยว่าในตอนนี้ราคามะละกอส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 25 บาท จากเดิมกิโกกรัมละไม่เกิน 5 บาทเท่านั้น สาเหตุของการขึ้นนั้นน่าจะมาจากระบบขนส่งที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นยังมีสูง และในตอนนี้ความต้องการในตลาดสูงเนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งกำลังเริ่มเข้ามาเยือน และสภาพอากาศที่หนาวเย็นส่งผลกระทบต่อสวนมะละกอออกผลไม่ดี ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดที่มีความต้องการสูงเนื่องจากร้านส้มตำเป็นที่นิยมมากขึ้น
เจ้าของร้านส้มตำบ้านหมูนางตั้งด้านข้างสมาคมจีนตรงข้ามกับตรอกโรงยา อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี กล่าวว่าก่อนหน้านี้เคยขึ้นราคาส้มตำมาหนึ่งครั้งแล้วจาก 25 บาท เป็น 30 บาท ซึ่งเป็นราคาเริ่มต้นแล้ว แต่ลูกค้าจะสั่งพิเศษหรือธรรมดาหรือใส่เครื่องเคียงเพิ่ม เช่น ตำหอยดอง ตำปู และอีกหลากหลาย ในตอนนี้ไม่กล้าที่จะขึ้นราคาอีกแล้วเพราะเกรงว่าลูกค้าจะหนีแล้วไม่มาอุดหนุน จึงจำเป็นต้องแบกรับต้นทุนที่สูงของมะละกอที่เป็นวัตถุดิบสำคัญไว้โดยไม่ขึ้นราคาและไม่คิดจะลดปริมาณลงอีกด้วย ซึ่งไม่เพียงแต่ราคามะละกอที่ขึ้นเท่านั้นวัตุดิบอื่นๆ ทั้งเครื่องปรุงรสต่างๆ ก็ขึ้นนำไปก่อนแล้ว
และล่าสุดถั่วฝักยาวที่เป็นวัตถุดิบสำคัญที่รองลงมาจากมะละกอ ยังพบว่าราคาจากกิโลกรัมละ 30 บาท ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 50 บาทแล้ว ซึ่งแม่ค้าร้านดังกล่าวบอกว่าเมืองอุทัยธานีเป็นเมืองเล็กๆ หากขึ้นราคาก็เกรงใจลูกค้าประจำซึ่งเปิดขายมากว่า 10 ปีแล้ว เกรงว่าจะเสียลูกค้าที่มาอุดหนุนกันประจำจะหายหน้าไปหมดจึงต้องขายไปทั้งราคามะละกอสูงแบบนี้ไปก่อน ซึ่งคาดว่าว่าราคามะละกอที่ปรับราคาสูงจะปรับลดลงในไม่ช้านี้
Advertisement