"อัจฉริยะ" อึดอัด ตร.ทำงานอืด เตรียมขึงป้ายรายชื่อ ตร.เอี่ยวเว็บพนัน หน้า สตช. จันทร์ที่ 27 ก.พ.นี้ แย้มอีกราย "แฟนดาราชื่อดัง"
วันที่ 22 ก.พ.66 ที่ บช.สอท. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์
โดยนายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า วันนี้ตั้งใจเดินทางมาเพื่อพูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เกี่ยวกับเรื่องคดีพนันออนไลน์ 17 คดีที่ตนได้มามอบข้อมูลให้ แต่กลับไม่มีความคืบหน้า
ซึ่งตนเริ่มอึดอัดกับการทำงานของตำรวจที่ไม่มีการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายใดทั้งในและนอกราชการที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์
โดยในวันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ จะนำป้ายรายชื่อของตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ทั้งหมด ทั้งคนที่คอยคุ้มครองดูแลเจ้าของเว็บ และคนที่เป็นเจ้าของเว็บเองไปแขวนที่ด้านหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับทราบว่า ตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องมีใครบ้างอีก ทั้งยังประกาศให้สาธารณชนรับทราบว่า คนที่มอบหมายให้ปราบปรามคนทำผิดนั้น กลับมาคอยดูแลคนทำผิด วิ่งเต้นส่งเงิน และทำผิดเสียเอง
นายอัจฉริยะ บอกด้วยว่า จากรายชื่อตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ที่ตนมี มีตั้งแต่ระดับนายพลทั้งอดีตและปัจจุบันเป็นร้อยนาย และมีตำรวจระดับผู้บัญชาการ ,ผู้บังคับการ ,ผู้กำกับการ อีกเยอะมาก
ส่วนที่เยอะที่สุด คือ ระดับสารวัตร ซึ่งมีชื่อของ สารวัตรที่เป็นแฟนกับดาราชื่อดังด้วย
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังอ้างด้วยว่า มีรายชื่อของ ผู้กำกับการ บก.สอท.5 ที่เป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์เอง ซึ่งจะส่งผลโดยตรงให้การทำคดีพนันออนไลน์ของตำรวจไซเบอร์ไม่คืบหน้า โดยตนมองว่าตอนนี้ บช.สอท. เป็นเหมือนซ่องโจร ที่เป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์เอง แล้วประเทศชาติจะอยู่อย่างไร ทั้งที่มีหลักฐานครบแต่ดำเนินคดีไม่ได้เพราะตำรวจไม่ทำ
นายอัจฉริยะ ยืนยันว่า ทุกเรื่องที่ตนพูด ตนมีหลักฐาน ทั้งรายชื่อการเป็นหุ้นส่วน ชื่อเว็บไซต์ ทรัพย์สิน และเส้นทางการเงิน อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะยอมรับหรือไม่เท่านั้น ซึ่งหากตนเปิดชื่อไปแล้วใครจะฟ้อง ก็ฟ้องได้เลย ตนไม่กลัว
ทั้งนี้ ตั้งแต่ตนเปิดเผยเรื่องนี้ ตนยังไม่เคยถูกใครมาข่มขู่ แต่มีตำรวจส่งหน้าม้าให้เอาเงินมาเจรจา ซึ่งถ้าตนรับจริง รวม 17 คดี ตนน่าจะได้เป็นร้อยล้าน แต่แม้แต่บาทเดียวตนก็ไม่เอา เพราะต้องการกู้ชื่อเสียงของตำรวจ
Advertisement