ตำรวจกาญจนบุรีบุกค้นบ้าน "แอม" ตรวจหาสารพิษ พบขวดยาต้องสงสัยคาดเป็น "ไซยาไนด์" ถูกเผาทิ้งหลังบ้าน เตรียมส่งพิสูจน์ให้ชัดเจน
ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตปริศนาของนางสาวศิริพร ขันวงษ์ หรือน้องก้อย อายุ 32 ปี ที่เสียชีวิตหลังไปปล่อยปลากับ น.ส.แอม เพื่อนสนิทที่ท่าน้ำริมแม่น้ำแม่กลอง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งครอบครัวของน้องก้อยติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมและขอให้มีการตรวจหาสารพิษในศพของน้องก้อย จนมีกระแสข่าวว่ามีการตรวจพบไซยาไนด์ในศพของน้องก้อย และนำไปสู่การออกหมายจับและการจับกุมตัวนางสาวแอม เพื่อนสนิทของน้องก้อยนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 7 ชุดสืบสวนตำรวจภูธรบ้านโป่งชุดสืบสวนภูธรจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรภาค 7 นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักที่นางสาวแอมเคยอาศัยอยู่กับอดีตสามีที่เป็นตำรวจระดับรองผู้กำกับ ซึ่งอยู่ติดกับแฟลตของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ในพื้นที่บ้านลุ่มดงกระเบา ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันเข้าตรวจค้นทั้งภายในบริเวณบ้านและพื้นที่รอบตัวบ้าน ซึ่งด้านหลังเป็นป่าละเมาะ โดยมีอดีตสามีของนางสาวแอมซึ่งเป็นตำรวจเข้าร่วมสังเกตการตรวจค้นด้วย ซึ่งหลังจากการตรวจค้นประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตรวจพบขวดยาต้องสงสัยเป็นขวดแก้วขนาดเล็ก ด้านในบรรจุน้ำยาสีดำอยู่ประมาณครึ่งขวด ถูกเผาอยู่ในกองขยะภายในป่าละเมาะด้านหลังบ้าน จึงได้ทำการเก็บขวดพร้อมน้ำยาด้านในส่งตรวจสอบเพื่อจะสามารถระบุให้แน่ชัดว่าเป็นสารพิษหรือไม่ นอกจากนี้ยังตรวจพบวัตถุพยานต้องสงสัยที่จะต้องส่งตรวจอย่างละเอียดอีกหลายอย่าง
ด้าน พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง ซึ่งเป็นผู้นำกำลังเข้าตรวจค้นกล่าวว่า การตรวจค้นในครั้งนี้เพื่อเป็นการหาวัตถุพยานและวัตถุต้องสงสัยในบ้านที่นางสาวแอมเคยพักอาศัยจำนวน 2 จุด คือที่บ้านพักแห่งนี้ซึ่งนางสาวแอมเคยพักอาศัยอยู่กับอดีตสามีที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอีกจุดที่บ้านพักในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เพื่อตรวจหาวัตถุพยานรวมถึงวัตถุที่คาดว่าจะเป็นสารพิษเพื่อส่งตรวจสอบ นอกจากการตรวจสอบในบริเวณบ้านพักแล้วยังจะได้เข้าทำการตรวจค้นในรถของนางสาวแอมและรถของผู้เสียชีวิตที่อาจจะมีสารพิษตกค้างอยู่เพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตรองผู้กำกับสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง ซึ่งเป็นอดีตสามีของนางสาวแอมที่มาร่วมสังเกตการตรวจค้นในครั้งนี้กล่าวว่า ตนเองยังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับนางสาวแอมก็น่าจะมาจากการที่มีพยานหลักฐานแน่นหนาพอที่จะอนุมัติหมายจับได้ ซึ่งตนก็เชื่อในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำคดีอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง ทั้งนี้ตนเองก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการเข้าตรวจค้นหรือสอบปากคำเพิ่มเติมตลอดเวลา โดยในส่วนของอดีตภรรยาตนเองนั้นหากกระทำผิดจริงตนก็อยากบอกว่าให้รับสารภาพและยอมรับผิดในสิ่งที่ได้กระทำลงไป
Advertisement