realme 11 Pro Series 5G เปิดตัวแล้ววันนี้ที่ประเทศจีน ชูนวัตกรรมกล้อง SuperZoom 200 ล้านพิกเซลรุ่นแรกของโลก พร้อมดีไซน์สุดลักซ์ชัวรีโดยนักออกแบบจาก Gucci ที่สวยสุดประทับใจ
เรียลมี (realme) แบรนด์สมาร์ทโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก เปิดตัวสมาร์ตโฟนซีรีส์ล่าสุด “realme 11 Pro Series 5G” ที่ประเทศจีน นำเสนอ 2 รุ่นคือ realme 11 Pro+ 5G และ realme 11 Pro 5G มาพร้อมดีไซน์ฝาหลังสุดอลังการ ผลงานการคอลแลบกับนักออกแบบสิ่งทอชั้นนำระดับโลกจาก Gucci Prints พร้อมชูไฮไลต์ในรุ่นใหญ่ realme 11 Pro+ 5G ด้วยสุดยอดนวัตกรรมกล้องถ่ายภาพระดับแฟล็กชิปแห่งปีที่ทุกคนรอคอย
สมาร์ตโฟน realme ในตระกูล Number Series สามารถทำยอดขายทั่วโลกได้มากกว่า 50 ล้านเครื่อง จึงถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ realme สามารถทุบสถิติยอดขายเกิน 100 ล้านเครื่องได้ในช่วงที่ผ่านมา และด้วยแนวคิดพื้นฐานที่ว่าบริษัทจะไม่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ถ้าไม่มีนวัตกรรมใหม่ (No Leap-forward innovation, no product release) ทำให้ realme 11 Pro+ 5G มาพร้อมเทคโนโลยีกล้องระดับแฟล็กชิปที่พร้อมสั่นสะเทือนวงการ โดยเป็นกล้องระบบ SuperZoom 200 ล้านพิกเซลรุ่นแรกของโลกซึ่งทรงประสิทธิภาพสูงสุดในตลาดสมาร์ตโฟนระดับราคาเดียวกัน และไม่เพียงมอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่เหนือระดับทั้งในด้านการซูม ความละเอียดของเม็ดพิกเซล และฟังก์ชันต่าง ๆ เท่านั้น แต่สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ยังยกระดับการออกแบบตัวเครื่อง รวมถึงคุณสมบัติด้านอายุการใช้งานแบตเตอรี่ หน่วยความจำ และอื่น ๆ อีกมากมาย
นายเชส ซือ รองประธานบริษัท realme และประธานกรรมการบริหาร realme Global Marketing กล่าวว่า “เป้าหมายสูงสุดของการพัฒนาเทคโนโลยีกล้องในสมาร์ตโฟนของเราคือการส่งเสริมไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด ซึ่งทำให้ realme 11 Pro 5G Series เป็นสมาร์ตโฟนที่มีเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพที่ดีที่สุดในกลุ่มแฟล็กชิป เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงกล้องระดับแฟล็กชิปได้ง่ายขึ้น และเก็บภาพที่สวยงามเพื่อสร้างสรรค์แรงบันดาลใจได้ในทุก ๆ วัน”
realme 11 Pro+ 5G กล้อง SuperZoom 200 ล้านพิกเซลรุ่นแรกของโลก พร้อมพลังการซูม 4 เท่าโดยไม่สูญเสียรายละเอียด
realme 11 Pro+ 5G มอบประสบการณ์กล้องถ่ายภาพระดับแฟล็กชิปด้วยการติดตั้งเซ็นเซอร์ภาพ Samsung ISOCELL HP3 SuperZoom รุ่นอัปเกรดขนาด 1/1.4 นิ้ว พร้อมรูรับแสงกว้างถึง f/1.69 รอบรับการจับภาพที่ความละเอียดสูงถึง 200 ล้านพิกเซล โดยที่ทุกพิกเซลมอบคุณภาพของภาพถ่ายได้อย่างเหนือระดับ
การถ่ายภาพจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายและสนุกสนานกว่าที่เคย ด้วยเทคโนโลยีการซูมของ realme 11 Pro+ 5G ที่มอบพลังการซูม 4 เท่าโดยไม่สูญเสียรายละเอียด ให้คุณถ่ายภาพระยะไกลได้อย่างคมชัดแบบสุด ๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานฟีเจอร์ Auto-zoom ได้ด้วยการแตะคำสั่งเพียงครั้งเดียว โดยกล้องจะทำการซูมไปยังบริเวณที่กำหนดไว้แบบอัตโนมัติโดยยังคงมุมมองภาพที่สวยงามได้อย่างสมบูรณ์แบบ
realme 11 Pro+ 5G ยังนำเสนอการตั้งค่าของกล้องระดับแฟล็กชิปอย่าง SuperOIS, Super NightScape, Moon Mode, และ Starry Mode Pro มอบอิสระแก่ผู้ใช้งานให้สามารถแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์และตัวตนในผลงานภาพถ่ายอย่างเต็มที่ ให้คุณค้นพบโลกกว้างและความรื่นรมย์ในการบันทึกความทรงจำที่มากกว่าด้วยโหมด กล้อง Sony Selfie Camera ที่มีความละเอียดถึง 32 ล้านพิกเซล รวมถึง Super Group Portrait Mode, One Take Mode และอีกมากมาย และที่ขาดไม่ได้คือ Street Photography Mode 4.0 ฟีเจอร์การถ่ายภาพยอดฮิตที่แฟน realme ทั่วโลกชื่นชอบอย่างมาก
realme 11 Pro 5G Series ไม่เพียงโดดเด่นในด้านกล้องถ่ายภาพเท่านั้น แต่ยังสร้างปรากฏการณ์ในเรื่องการออกแบบตัวเครื่องอีกด้วย ซึ่งทั้ง 3 โทนสี Sunrise Beige, Oasis Green และ Astral Black ได้รับการพัฒนาจาก realme Design Studio ผ่านความร่วมมือกับ Matteo Menotto อดีตดีไซเนอร์ภาพพิมพ์และสิ่งทอจากแบรนด์ Gucci เพื่อนำเสนอมาตรฐานงานดีไซน์ระดับไฮเอนด์และงานฝีมือจากแบรนด์ระดับลักซ์ชัวรี สู่หนุ่มสาวผู้ใช้งานสมาร์ตโฟน realme ทั่วโลก
โดยเฉพาะโทนสี Sunrise Beige ซึ่งนำความงามมาจากโทนสีของมิลาน-เมืองแห่งแฟชั่น ผู้ออกแบบได้จับเอาความประทับใจในช่วงเวลาที่แสงแดดสีทองส่องกระทบสถาปัตยกรรมคลาสสิกอันงดงาม เกิดเป็นความสว่างเรืองรองสีทองอ่อนที่ฉาบไล่ไปทั่วทั้งตัวเมือง ผ่านกรรมวิธีการผลิตเกรดพรีเมียม รวมถึงการใส่รายละเอียดแนวตะเข็บแบบ 3 มิติที่สวยงามเสมือนงานของช่างฝีมือ มอบผิวสัมผัสระดับสูงด้วยหนังวีแกนลายผลลิ้นจี่ ผสานการทอแบบ 3 มิติเพื่อสร้างสรรค์ดีไซน์ที่งดงาม ทันสมัย พร้อมสะกดทุกสายตา
นอกจากนวัตกรรมกล้องถ่ายภาพและมาตรฐานงานออกแบบขั้นสูง realme 11 Pro+ 5G ยังมาพร้อมประสิทธิภาพรอบด้านอันโดดเด่น ทั้งระบบชาร์จเร็ว 100W SUPERVOOC และแบตเตอรี่ความจุถึง 5000mAh มาพร้อมจอแสดงผลขอบโค้ง 120Hz Curved Vision Display และเทคโนโลยีถนอมดวงตาด้วยประสิทธิภาพการปรับระดับแสงที่ 2160Hz ซึ่งสูงสุดในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนปัจจุบัน ทั้งยังสามารถปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติได้ถึง 20,000 ระดับ เป็นครั้งแรกของโลก
realme 11 Pro 5G ใช้จอเกรดพรีเมียมเหมือนกับรุ่นพี่อย่าง realme 11 Pro+ 5G โดยเป็นจอแสดงผลขอบโค้ง 120Hz Curved Vision Display และประสิทธิภาพการลดระดับแสงที่ 2160Hz ครั้งแรกของโลก มอบความสว่างสู้แสงแดดจ้าได้อย่างดีเยี่ยม และปรับความสว่างหน้าจอแบบอัตโนมัติได้ถึง 20,000 ระดับ โดยได้รับ 2 มาตรฐานรับรองการปกป้องดวงตาจากสถาบันอันทรงเกียรติ TÜV Rheinland จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและความสบายตาในการใช้งานตลอดวัน
นอกจากจอแสดงผลชั้นเยี่ยม realme 11 Pro 5G ยังมีมาตรฐานการออกแบบตัวเครื่องที่สวยงามเหมือนกับ realme 11 Pro+ 5G นำเสนอทั้ง 3 โทนสี Sunrise Beige, Oasis Green และ Astral Black ซึ่งแต่ละโทนสีมอบสุนทรียภาพในการใช้งานขั้นสุด สำหรับกล้องถ่ายภาพมีความละเอียดถึง 100 ล้านพิกเซล พลังซูม 2 เท่าโดยไม่สูญเสียรายละเอียด รวมถึงโหมดการใช้งานอย่าง Auto-Zoom Mode, Super NightScape Mode และ Street Photography Mode 4.0
realme 11 Pro 5G จึงเป็นอีกหนึ่งสมาร์ตโฟนแฟล็กชิปที่มอบประสิทธิภาพการใช้งานขั้นสูง กินพลังงานต่ำ และให้หน่วยความจำขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังซีพียู Dimensity 7050 5G นำเสนอรุ่นความจุมาตรฐาน 12/256GB นอกจากนี้ ยังเสริมประสบการณ์การใช้งานที่ง่ายดายด้วยระบบชาร์จไว 67W SUPERVOOC กับแบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมเฟิร์มแวร์ใหม่ล่าสุด realme UI 4.0 และลำโพงคู่พานอรามิก Dolby ไว้อย่างครบครัน
และถึงแม้ realme 11 Pro 5G Series จะมาพร้อมกับความเป็นผู้นำในด้านเทคโนยีในทุกด้าน แต่ก็เปิดราคามาอย่างคุ้มค่าแบบคาดไม่ถึง โดย realme 11 Pro+ 5G มาในราคาเริ่มต้น 1,999 หยวน (ประมาณ 9,737 บาท) และ realme 11 Pro 5G มาในราคาเริ่มต้น 1,699 หยวน (ประมาณ 8264.33 บาท) อย่างไรก็ตาม realme 11 Pro 5G Series ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่จะมายกระดับสมาร์ตโฟนในระดับแฟล็กชิบให้ก้าวสู่อีกขั้นของอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนอย่างแท้จริง.
Advertisement