รปภ.ห้างใจเด็ดอดีตนักมวย รวบหนุ่มใช้ไขควงจี้ พนง.แบงก์ ชิง 2 แสน อ้างหาเงินใช้หนี้พนันออนไลน์ บอกวันนี้เดดไลน์ต้องจ่ายและไปไถ่รถที่จำนำไว้
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 4 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ รปภ.ของทางห้างมาร์เก็ตวิลเลจสุวรรณภูมิ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี สามารถจับกุมตัวนายทวีศักดิ์ พลาเลิศ อายุ 36 ปี ได้พร้อมกับของกลางเป็นเงินสด 207,000 บาท พร้อมของกลางที่เป็นอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุคือ ไขควงวัดไฟสีเหลือง จำนวน 1 อัน โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในห้างที่ชั้น 1 ของทางห้าง หลังจากที่นายทวีศักดิ์ได้ลงมือก่อเหตุใช้ไขควงจี้เอวพนักงานของธนาคาร TTB ภายในห้างเพื่อจับตัวเป็นตัวประกัน จากนั้นบังคับพนักงานในธนาคารดังกล่าวส่งเงินสดให้กับคนร้าย หลังจากได้เงินจึงจับพนักงานเป็นตัวประกันเพื่อหวังหลบหนีออกจากธนาคารซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ของทางห้างดังกล่าว ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ รปภ.ของทางห้างช่วยกันล้อมจับกุมตัวส่งตำรวจได้พร้อมของกลางทั้งหมด
นายสุริพงศ์ เจริญหทัยรัตน์ หนึ่งในพนักงาน รปภ.ที่เข้าไปจับกุมบอกว่า ตอนนั้นตนเองกำลังเข้าเวรอยู่ภายในห้างและเป็นช่วงที่ธนาคารต่างๆ ในห้างกำลังปิด จึงเป็นช่วงที่ถูกวางมาตรการป้องกันเหตุไว้ จังหวะที่กำลังเดินตรวจตราในห้างอยู่นั้นวิทยุก็แจ้งว่ามีสัญญาณแจ้งภัยของธนาคารดัง ตอนแรกก็ยังไม่ทราบว่าเป็นธนาคารไหนเพราะทุกอย่างยังคงปกติ กระทั่งพบว่ามีคนร้ายจับตัวพนักงานเป็นตัวประกันเดินออกมาจากธนาคารแล้ววิ่งหนีลงบันได้เลื่อนจึงวิ่งตามก่อนจะช่วยกันจับกุมตัวเอาไว้ได้
ส่วนนายอลงกรณ์ ฤกษ์ตุลา อายุ 24 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ.อีกคนที่เข้าไปล็อกตัวคนร้ายรายนี้และรปภ.คนนี้ดีกรีเป็นถึงอดีตนักมวยเก่าจึงมีความกล้าในการจับกุมคนร้ายเจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นเข้าเวรในห้อง รปภ.พอวิทยุแจ้งมาว่ามีคนร้ายกอ่เหตุปล้นธนาคาร ตนเองก็รีบไปพอไปถึงก็พบว่าคนร้ายกำลังหลบหนีออกจากห้าง ซึ่งตอนนั้นมั่นใจแล้วว่าประตูทุกบานของทางห้างถูกล็อกปิดทั้งหมดจึงล้อมจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด ถามว่ากลัวไหมบอกเลยว่าไม่กลัวเพราะตนเองเป็นนักมวยเก่า
ด้านนายทวีศักดิ์ ผู้ต้องหาให้การทั้งน้ำตาและเอ่ยปากขอโทษพนักงานของทางธนาคา รโดยบอกว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจแต่ที่ทำลงไปเพราะเป็นหนี้จากการพนันออนไลน์จำนวนกว่า 5 แสนบาท และวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะต้องหาเงินไปใช้หนี้และไถ่รถที่เอาไปจำนำไว้ ตนจึงตัดสินใจวางแผนมาก่อเหตุโดยนั่งรถแท็กซี่มาจากริมถนนเทพรัตน กม.19 ซึ่งห่างจากห้างแห่งนี้ประมาณ 7 กิโลเมตร พอมาถึงก็เดินวนอยู่หน้าธนาคารคิดว่าจะทำดีหรือไม่ทำ แต่เพราะความที่ต้องหาเงินไปใช้หนี้จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุโดยใช้ไขควงจี้เอวพนักงานเพื่อบังคับให้ส่งเงินมาให้
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี เข้าสอบปากคำเบื้องต้นด้วยตนเองและคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในธนาคารดังกล่าว โดยเริ่มจากการเข้าไปในธนาคารแล้วคนร้ายเดินเข้าไปประกบพนักงานธนาคารที่นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ช่องที่ 5 ซึ่งอยู่ด้านข้างของธนาคาร จากนั้นใช้ไขควงจี้เอวพนักงานหญิงคนดังกล่าวบังคับให้เปิดลิ้นชักเก็บเงินแต่ไม่มีเงิน จึงจับตัวเป็นตัวประกันเดินไปที่เคาน์เตอร์ช่องที่ 2 เพื่อให้พนักงานคนอื่นไปหยิบเงินจากตู้เซฟมาให้ ครั้งแรกไม่ทราบจำนวนแต่คนร้ายพอเห็นเงินก็บอกว่าไม่พอขอเงินเพิ่มอีกพนักงานจึงส่งเงินอีกก้อนให้รวมทั้งสิ้น 207,000 บาท ใส่ถุงพลาสติกให้กับคนร้าย จากนั้นคนร้ายได้บังคับและจี้เอวพนักงานให้เดินออกจากธนาคารก่อนจะปล่อยตัวแล้ววิ่งหลบหนี
Advertisement