แม๊ก เปิดใจโต้ไม่ใช่มาเฟียสะพานเหล็กรีดเงิน แค่ทะเลาะเรื่องเล็กน้อย แต่ถูกฝั่งคู่กรณีพาคนมาคุกคามไม่หยุด
ความคืบหน้ากรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Atongshopp 玩具 หรือ อาตง ร้านขายของเล่นชื่อดัง ย่านสะพานเหล็ก ตีแผ่เรื่องราว หลังทางร้านได้ถูกข่มขู่คุกคาม จากพ่อค้าอันธพาลในห้าง โดยระบุใจความดังนี้
แม้ะ และ มุ้ย (นามสมมติ) เป็นพี่น้องที่เปิดร้านขายของเล่นในตึกเดียวกัน นอกจากจะเป็นพ่อค้าแล้ว ทั้งคู่ยังมีพฤติกรรมอันธพาล จากที่เคยได้ยินหลายคนเล่ารวมถึงที่เห็นกับตาเจอกับตัว พบว่าหลายครั้งเวลาที่ทั้งคู่ไม่พอใจใครในตึกก็จะพากันไปข่มขู่คุกคาม ลามไปถึงการทำร้ายร่างกาย
คนที่ไม่อยากมีปัญหาก็ต้องยอม เวลาคุกคามหรือทำร้ายร่างกายใครก็ท้าทายให้แจ้งตำรวจได้เลย เพราะตำรวจทำอะไรเค้าไม่ได้ แน่นอนว่าร้านเราเองก็โดนแต่ที่ผ่านมาเราเลือกที่จะยอมเพราะไม่อยากมีปัญหา
ตัวละครต่อมาคือ อ้วน (นามสมมติ) เป็นหนึ่งในลูกน้องของแม้ะ มุ้ย ซึ่งอ้วนเนี่ยเรียกว่าเป็นเด็กฝากที่ แม้ะ มุ้ย เอามาฝากให้ทำงานกับทางร้าน ซึ่งระหว่างที่ทำงาน อ้วนมีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์หลายอย่าง เช่น หยุดงานบ่อยเกิน 10 วันต่อเดือนไม่รวมวันหยุดที่ได้หยุด 2 วันต่อสัปดาห์, สูบบุหรี่ภายในร้าน มาทำงานสาย รวมถึงชอบชวนคนนอกเข้ามาบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ซึ่งเป็นที่เก็บเงิน
ตอนนั้นเราซึ่งเป็นผู้จัดการร้านได้ทำการตักเตือนหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีการปรับปรุง เราจึงทำเรื่องแจ้งเจ้าของร้านให้ยุติการจ้างทำงาน (ไม่ผ่านโปร) ทำให้นาย อ้วน พ้นสภาพพนักงานของทางร้านไปตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565
เมื่อแม้ะ มุ้ย ทราบว่าอ้วนถูกเชิญออกทั้งคู่ก็ไม่พอใจ จึงข่มขู่เจ้าของร้านเพื่อบังคับให้จ่ายเงินเดือนให้อ้วน เดือนละ 15,000 บาทเป็นเวลา 1 ปี (รวมเป็นเงิน 180,000 บาท) โดยให้ อ้วน รับหน้าที่ม้าใช้ ทำงานต่าง ๆ ที่เจ้าของร้านมอบหมายซึ่งไม่ใช่ในฐานะพนักงานของร้าน ซึ่งเจ้าของร้านก็เคยให้ไปเรียนขับรถ (โดยจะออกค่าใช้จ่ายในการเรียนให้) เพื่อให้มาเป็นคนขับรถก็ไม่เรียน จนกระทั่งปัจจุบันอ้วนก็ยังไม่มีการช่วยธุระอะไรใด ๆ อย่างที่เคยคุยกันไว้ ทั้งหมดเป็นสัญญาปากเปล่า และเราไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน
วันที่ (27 มิถุนายน 2566) เวลาประมาณบ่ายสอง อ้วนเดินทางมาที่ร้านเพื่อมารับเงินตามข้อ 3 เราก็โทรติดต่อเจ้าของร้านจนได้รับคำตอบว่าให้อ้วนรอหลังวันที่ 5 กค. เดี๋ยวจะจ่ายเงินให้ แต่คำตอบกลับทำให้อ้วนไม่พอใจ จึงโทรตามลูกพี่แม้ะ มุ้ยให้มาที่ร้าน
พอมาถึง ทั้งคู่ก็พยายามติดต่อเจ้าของร้านแต่ก็ได้คำตอบเดียวกันว่าให้รอหลังวันที่ 5 กค. ก็ยิ่งทำให้พวกเค้าไม่พอใจเข้าไปใหญ่ เราที่งงว่าเงินจำนวนนี้คืออะไรก็เลยสอบถาม แต่ก็ได้คำตอบกลับมาว่า “มึงเกี่ยวอะไรด้วย” ซึ่งเราก็ตอบว่าเกี่ยวสิ เราเป็นหุ้นส่วนร้านนี้
แม้ะ มุ้ยยังคงพยายามติดต่อเจ้าของร้านให้เอาเงินมาจ่ายภายในวันนี้ให้ได้ แล้วยังเริ่มแสดงพฤติกรรมอันธพาล ไล่ลูกค้าในร้านออกและสั่งให้ปิดร้านแต่เราไม่ทำตาม แม้ะที่โกรธจัดก็เริ่มเตะถีบโต๊ะเก้าอี้ของร้าน ก่อนจะสั่งให้อ้วน กับสมุนอีกคนนั่งเฝ้าร้านไว้จนกว่าเจ้าของร้านจะเอาเงิน 15,000 บาทมาจ่าย
ตอนนั้นยอมรับว่าเราเองก็เริ่มโกรธ ที่พวกเค้ามาทำลายข้าวของในร้านแบบนี้ ก็เลยพูดไปว่า “ของสกปรกหมดแล้ว โอ้มายก๊อด” จุดนี้มันทำให้แม๊ะเริ่มด่าทอและเกิดเหตุการณ์ตามในคลิป ซึ่งเราถูกกระชากผม และหน้ากากอนามัย
หลังจากลงมือทำร้ายร่างกายเสร็จ แม้ะก็ข่มขู่ว่าถ้าอยากเปิดร้านต่อ เราจะต้องถอนตัวจากการเป็นผู้ถือหุ้นของร้าน และต้องไล่พนักงานที่พวกเค้าไม่ชอบออก เค้าถึงอนุญาตให้ร้านเปิดขายของต่อไปได้ ส่วนมุ้ยเองก็พูดจาข่มขู่สารพัด
ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่ไปที่เมกะพลาซ่าสะพานเหล็ก ที่ร้านเกิดเหตุปิดร้านเงียบ ทีมข่าวจึงไปที่ร้านคู่กรณี นายแม๊ก เปิดใจ กับทีมข่าว ว่าตนเองกับคู่กรณี นายตง และนางสาวตี้ มีปากเสียงกัน เนื่องจากเพื่อนที่รู้จักชื่อกายเคยไปทำงานที่ร้านคู่กรณี แต่มีปัญหากัน เรื่องเงิน พอจะไปคุยเคลียร์กัน ฝั่งตนเองก็ถูกด่าทอ และนางสาวตี้มาด่าตนเองว่าสกปรก ทำให้ตนเองอารมณ์ขึ้น เข้าไปดึงจุกผมถามเพราะความโมโห เพราะตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องเงินของนายกายเลย แต่ตนเองกลับถูกด่า หลังจากนั้นบอกเคลียร์กันจบ จะลงมาขอโทษ แต่กลับส่งคนมาที่ร้านตนเอง และโทรศัพท์มาข่มขู่อ้างเป็นคนของมาเฟียชื่อกี่ ลูกน้อง ของแป๊ะก้ง ย่านเยาวราช และมีตำรวจ สน.พระราชวังเข้ามา และ อ้างถึงผบ.ตร. ตอนนั้นตนเองยังงงว่าเกี่ยวข้องอะไรกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าตนเองไม่ใช่มาเฟียไม่เคยเรียกรับเงินใคร การทวงเงินเป็นเรื่องของนายกาย อดีตลูกน้องนายตง ไม่เกี่ยวกับตนเอง
Advertisement