"ผู้การเต่า ทางหลวง" ยอมรับผิด ปราบส่วยสติ๊กเกอร์ไม่หมด หลัง โสภณ 38 กลับมาอีก ฝากรัฐบาลใหม่ แก้ กม.น้ำหนักบรรทุก ป้องกันส่วยทางหลวง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ก.ย.66 ที่ อาคารพิทักษ์สันติ ชั้น 16 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม.
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวถึงความคืบหน้าในการปราบปราม ส่วยสติ๊กเกอร์ พร้อมกับยอมรับผิดที่ปราบปรามไม่หมด เนื่องจาก ช่วงก่อนหน้านี้ ที่มีการปราบปราม ส่วยสติ๊กเกอร์ทางหลวง อย่างจริงจัง ส่วยสติ๊กเกอร์ ก็เงียบหายไป เนื่องจาก พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ ตนเอง มีความจริงจังในการปราบปรามเรื่องดังกล่าว แต่พอเรื่องเงียบ ก็มีเรื่องสติ๊กเกอร์โสภณ 38 กลับมาอีก ต้องยอมรับความผิดพลาดที่ปล่อยปละละเลยให้มีตำรวจทางหลวงนอกรีต กลับมามีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์อีก ขณะนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบว่ามีตำรวจทางหลวงเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ ฝากถึง ผู้ประกอบการ ที่บรรทุกน้ำหนักเกิน ว่าการเรียกร้อง ให้ตำรวจทางหลวง แก้กฎหมายเรื่องน้ำหนักเกิน เป็นข้อเรียกร้องที่ไม่ถูกจุด ต้องไปเรียกร้องที่กระทรวงคมนาคม พร้อมทั้ง ฝากถึงรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม อยากให้มีการแก้ไขกฎหมาย เรื่องเพิ่มน้ำหนักรถบรรทุก เพื่อป้องกันส่วยทางหลวง และเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ไม่ต้องแบกรับต้นทุนจากการขนส่งสินค้า ที่ทำให้ไม่คุ้มค่า
ส่วนความคืบหน้า การดำเนินการกับตำรวจทางหลวง ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์ก่อนหน้านี้ มี ทั้ง หมด 40 คน ในจำนวนนี้ มี 29 คนที่เกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์ และมี 6 คน ที่ประกอบด้วยนาย ตำรวจระดับ รอง ผกก. 1 นาย รองสารวัตร 1 นาย และชั้นประทวนอีก 4 นาย ทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดี และ ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ไปแล้ว ส่วนที่เหลือ อีก 11 คนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์ แต่มีการไปเรียกรับผลประโยชน์ในเรื่องอื่น
โดยตำรวจทั้งหมด หลังจากมีคำสั่งย้าย ออกจากหน่วย เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวน และปัจจุบัน ได้ส่งตัวกลับหน่วยงาน โดยมีข้อแม้ 2 ประการ คือ ห้ามไปปฏิบัติหน้าที่ ที่ยุ่งเกี่ยวกับประชาชน และห้ามเรียกรับผลประโยชน์โดยเด็ดขาด
ส่วนการโยกย้ายตามฤดูกาลครั้งต่อไป นายตำรวจทั้ง 40 นาย ที่ถูกสอบเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์ทั้งหมดนี้ จะพิจารณา ให้ย้ายออกจากสังกัด กองบังคับการตำรวจทางหลวง
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ยังฝากถึงประชาชน และผู้ประกอบการ หากมีการเรียกรับส่วยสติ๊กเกอร์ ให้แจ้งเบาะแส มาที่ กองบังคับการตำรวจทางหลวง และ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อขุดรากถอนโคนตำรวจทางหลวงนอกรีตให้หมด
Advertisement