Trick or Treat ที่เขาชอบพูดกันในวันฮาโลวีนคืออะไร และเจ้าหัวฟักทองจุดเทียนที่ประดับตามบ้านเรือนนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร
ทำความรู้จักกับที่มาของประเพณี 2 อย่าง ที่นิยมทำกันเป็นประจำใน วันฮาโลวีน อย่างการเล่น Trick or Treat ของเด็กๆ และเจ้าหัวฟักทองจุกเทียนที่ประดับประดาไว้ตามบ้านเรือน
Trick or Treat คืออะไร
Trick or Treat แปลเป็นไทยว่า หลอกหรือเลี้ยง โดยเป็นกิจกรรมยามดึกที่เด็กๆ จะแต่งตัวเป็นผีแบบต่างๆ ทั้งตลก น่ารัก หรือถึงขั้นน่ากลัวสมจริง จากนั้นก็รวมตัวกันไปเคาะประตูบ้านเรือนต่างๆ เพื่อถามว่า Trick or Treat ซึ่งเป็นการถามจะยอมให้ขนมหรือจะยอมโดนหลอก ถ้าเจ้าของบ้านตอบว่า Treat นั่นก็คือยอมแพ้ แล้วก็ต้องเลี้ยงหรือให้ขนมหรือลูกกวาดกับเด็กๆ หรือถ้าตอบว่า Trick ก็ คือยอมให้เด็กๆ หลอก ซึ่งอาจจะเป็นการแกล้งกันเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ต้องยอม Treat แล้วก็ให้ลูกกวาดกับเด็กๆ ไปในที่สุด โดยจะสังเกตว่าบ้านหลังไหนทำการตกแต่งด้วยฟักทองจุดเทียนไว้ ก็หมายความว่าต้อนรับให้เด็กๆ เข้าไปทำการถามคำถามนี้
ที่มาของประเพณีนี้มีมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยชาวยุโรปถือว่าวันที่ 2 พฤศจิกายน เป็นวัน All Souls พวกเขาจะขอบริจาค Soul Cake หรือ ขนมเค้กสำหรับวิญญาณจากคนในหมู่บ้าน โดยมีความเชื่อว่ายิ่งให้ขนมเค้กมากเท่าใด วิญญาณบรรพบุรุษของผู้บริจาคก็จะได้รับผลบุญมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเมื่อกาลเวลาผ่านไปประเพณีนี้จึงปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย และเปลี่ยนมาเป็นขนมหลากหลายชนิดที่มอบให้กับเด็กๆ นั่นเอง
เจ้าหัวฟักทองจุดเทียน มีที่มาอย่างไร
ตำนานหัวฟักทอง หรือที่รู้จักกันในชื่อ แจ๊ก-โอ’-แลนเทิร์น jack-o’-lantern สำหรับเทศกาลฮาโลวีน สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยคือหัวฟักทองแกะสลักจุดเทียนไว้ด้านใน ที่ผู้คนใช้สำหรับตกแต่งเอาไว้หน้าบ้านของตัวเองในยามค่ำคืน ซึ่งที่มาของประเพณีนี้คือเรื่องเล่าตำนานพื้นบ้านของชาวไอริช กล่าวถึงที่มาของชาวนาจอมเจ้าเล่ห์ชื่อ แจ็ค ที่ในยุคนั้น ปิศาจจะออกตระเวนขอพืชผลจากชาวบ้าน ซึ่งไม่มีบ้านไหนที่กล้าปฏิเสธ เพราะกลัวต้องคำสาป แต่แจ็คไม่กลัวและไม่เคยหยิบยื่นอะไรให้ปิศาจเลย
วันหนึ่งปิศาจจึงแอบมาสำแดงตนให้แจ็คเห็น หวังจะให้เขาเปลี่ยนใจหันมาเกรงกลัว แต่เหตุการณ์กลับกลายเป็นว่าแจ็คหลอกล่อปิศาจขึ้นไปบนต้นไม้ และเขียนกากบาทกางเขนไว้ที่โคนต้น จนปิศาจติดกับดักหนีไปไหนไม่ได้ จากนั้นเขาได้ทำข้อตกลงกับปิศาจว่าห้ามนำสิ่งไม่ดีมาหลอกล่อเขาอีกและห้ามพาเขาตกนรก เขาจึงปล่อยปิศาจลงจากต้นไม้
เมื่อแจ็คตายลงด้วยความเป็นคนชั่วเขาจึงไม่ได้ไปสวรรค์ แต่ก็ไม่อาจตกนรก ทำให้แจ็คกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนไม่มีที่ไปตลอดกาล ปิศาจจึงให้ถ่านที่กำลังคุกรุ่นแก่เขา เพื่อเอาไว้ปัดเป่าความหนาวเย็นท่ามกลางความมืดมิด และแจ็คได้นำถ่านนี้ใส่ไว้ในหัวผักกาดเทอนิพที่ถูกเจาะให้กลวง เพื่อให้ไฟลุกโชติช่วงได้นานขึ้น ชาวไอริชจึงทำตามแกะสลักหัวผักกาดเทอนิพ และใส่ไฟในด้านใน อันเป็นอีกสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีนเพื่อระลึกถึง การหยุดยั้งความชั่ว แต่เมื่อมีการฉลองฮาโลวีนในสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกาพบว่า ฟักทองหาง่ายกว่าหัวผักกาดมาก จึงเปลี่ยนมาใช้ฟักทองแทน และกลายเป็นหัวฟักทองจนมาถึงปัจจุบัน
Advertisement