Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ไทยร่วมถก ASAS ป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ พบโดนลวงบน "มือถือ-เฟซบุ๊ก" มากสุด

ไทยร่วมถก ASAS ป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ พบโดนลวงบน "มือถือ-เฟซบุ๊ก" มากสุด

21 พ.ย. 66
10:30 น.
|
311
แชร์

ที่งานประชุมต่อต้านการหลอกลวง ASAS "ธัชชัย ปิตะนีละบุตร" เผยเอเชียกำลังเผชิญปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ จนก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นปัญหาระดับประเทศ ล่าสุดไทยจัดตั้งศูนย์ AOC ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามโจรออนไลน์อย่างบูรณาการ และทันเวลา

เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่งานประชุมต่อต้านการหลอกลวง Anti-Scam Asia Summit (ASAS) ณ กรุงไทเป ไต้หวัน พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมในการประชุมและอภิปราย ในหัวข้อ Private Public Collaboration : The Possibilities & the Roadblocks ร่วมกับเจ้าหน้าที่ หน่วยงานความปลอดภัยไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และนิวซีแลนด์ด้วย

พล.ต.ท.ธัชชัย เผยถึงการเข้าร่วมงานประชุม ASAS ครั้งนี้ว่า เราต้องการความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการแก้ไขปัญหาเรื่องอาชญากรรมออนไลน์ และได้เห็นภาพรวมด้วยว่า แต่ละประเทศมีปัญหาเรื่องอาชญากรรมออนไลน์เป็นอย่างไรบ้าง ก็พบว่า ปัญหาที่ประเทศไทยพบที่กำลังเผชิญในปัจจุบันก็เหมือนกับทั่วโลก แต่ก็มีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยในเชิงความเสียหาย

พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันรัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือ Anti Online Scam Operation Center (AOC) แบบ One Stop Service สำหรับประชาชน เพื่อใช้ติดตามสถานการณ์ สั่งการ และปฏิบัติการป้องกันปราบปรามโจรออนไลน์อย่างบูรณาการ และทันเวลา

img_8179

"ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มีการก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นปัญหาระดับประเทศ และเป็นปัญหาที่ต้องการการจัดการที่รวดเร็ว และสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด คือข้อมูล และความเร็ว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลคนไทยในการใช้โทรศัพท์ หรือบัญชีธนาคารต่างๆ ตรงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นใจความสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้" พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าว

อย่างไรก็ดี Jeff Kuo ซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้ง Gogolook ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน Whoscall ที่สามารถระบุตัวตนสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จัก เพื่อรู้ทันสายมิจฉาชีพ สำหรับสมาร์ทโฟน ในฐานะ พันธมิตรองค์กร GASA (The Global Anti-Scam Alliance) และผู้ร่วมจัดงานประชุม ASAS ได้เผยคะแนนความเชื่อมั่นในความมั่นใจเกินเหตุ จนนำไปสู่ความผิดพลาด ดังนี้ อันดับ 1 อินโดนีเซีย 80 คะแนน, จีน 78.6 คะแนน, ฟิลิปปินส์ 74 คะแนน, ไต้หวัน 67.1 คะแนน, เกาหลีใต้ 61.3 คะแนน และ อันดับ 6 ประเทศไทย 63.3 คะแนน ตามลำดับ และยังพบช่องทางที่ใช้ในการหลอกลวงเหยื่อ

gasa-x-gogolook_asia-scam-rep_2gasa-x-gogolook_asia-scam-rep_3gasa-x-gogolook_asia-scam-rep_4

ในส่วนของดิจิทัลแพลตฟอร์ม ยังพบว่า เฟซบุ๊ก 47.3%, Line 40.4%, Gmail 10.6%, Instagram 6.1% และ google 5.1% ที่อาชญากรรมใช้ในการหลอกเหยื่อทางออนไลน์ มากที่สุดตามลำดับ

gasa-x-gogolook_asia-scam-repgasa-x-gogolook_asia-scam-rep_1

ซึ่งจากข้อมูลข้างต้น พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวถึงแนวทางการในการป้องกันว่า

  1. เรื่องของความร่วมมือ เราต้องสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ เราควรมีแพลตฟอร์มที่เป็นตรงกลาง เปิดให้ทุกประเทศสามารถเข้าถึงได้ จะทำให้เราแลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับภาคเอกชน เช่น ธนาคาร, ผู้ให้บริการโทรศัพท์ และแพลตฟอร์มระดับโลกต่างๆ

  2. ความรวดเร็ว "ตำรวจไม่ได้มีปัญหาเรื่องการจับคนร้าย" สิ่งที่เราต้องการคือความรวดเร็วของข้อมูล เช่น บัญชีม้า, การใช้งานโทรศัพท์ของอาชญากรรม รวมถึง IP Address จะทำให้เราเข้าถึงคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ถ้าคนร้ายอยู่ต่างประเทศ แล้วเราได้ข้อมูลที่แม่นยำ เราสามารถใช้วิธีทางด้านการทูตในการกดดันให้นำส่งตัวคนร้ายได้

  3. ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ คือ คนไทยที่ไปอยู่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตกลงเป็นเหยื่อ หรือเป็นผู้ร่วมกระบวนการ ซึ่งเราต้องเอาเครื่องมือที่มีอยู่มาพัฒนาให้มีรายละเอียดมากขึ้น "เราไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนว่า คนไทยไปอยู่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ทางด้านการสืบสวนสอบสวนก็ถือเป็นจำนวนที่มากที่เข้าไปร่วม ส่วนใหญ่อยู่ในโซนประเทศเพื่อนบ้าน ด้านตะวันออก, ตะวันตก และภาคเหนือ ติดกับแนวชายแดน" พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าว

s__33366181_0_1

พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ส่วนตัวเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ เข้าใจเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ต้องทำควบคู่กันไปคือ กฎหมาย PDPA "ปัจจุบันประชาชนมีความรู้ แต่เสียรู้ตอบกลับข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นเลขบัตรประชาชน, เส้นทางธุรกรรม, ทำอะไรที่ไหนเมื่อไร, บอกจนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น" บางทีประชานก็รู้ตัวแต่เพราะความไม่แน่ใจ เลยตกเป็นเหยื่อได้ง่าย

img_8187

เมื่อถามว่า ในวงการตำรวจมีเจ้าหน้าที่โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงหรือไม่ ? พล.ต.ท.ธัชชัย ตอบว่า มีครับ หมอโรพยาบาลตำรวจโดนไป 2 ล้านกว่าบาท และตำรวจที่เกษียณแล้ว แต่ในหน้าที่ยังไม่พบ "ผมเองยังรับโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทุกอาทิตย์ เขาบอกให้ผมไปคุยกับตำรวจเชียงราย ซึ่งเรารู้ข้อมูลส่วนตัวผมหมดเลย ผมก็คุยนะ เพราะผมต้องการรู้ข้อมูลจากแก๊งคอล" แต่ฝากบอกพี่น้องคนไทย ไม่ควรคุยเล่นกับแก๊งคอล เนื่องจากมีความเสี่ยงจะถูก AI จับ และนำไปหลอกเหยื่อท่านอื่นเพิ่ม ทางที่ดีควรตัดสายทิ้งไปเลย.

img_8193

Advertisement

แชร์
ไทยร่วมถก ASAS ป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ พบโดนลวงบน "มือถือ-เฟซบุ๊ก" มากสุด