ลุงพล-ป้าแต๋น ถึงศาลจังหวัดมุกดาหาร เลี่ยงเจอหน้า พ่อแม่ น้องชมพู่

ลุงพล-ป้าแต๋น ถึงศาลจังหวัดมุกดาหาร เลี่ยงเจอหน้า พ่อแม่ น้องชมพู่ ตื่นเต้นที่จะได้ฟังคำตัดสินที่รอคอยมา 3 ปี 

คอนเทนต์แนะนำ

สรุปคดี "แอม ไซยาไนด์" ศาลตัดสินประหารชีวิต วางยาฆาตกรรมเหยื่อ 15 ราย

จับพิรุธ ทนายตั้ม สัญญาทำแอปฯหวย “พี่อ้อย”เอกสารถูกตัดต่อ?

ส่อง 8 สถิติ "พรีเมียร์ลีก" ก่อนเปิดศึก นัดที่ 12

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 20 ธ.ค. 66 ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และ นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น จำเลยที่ 1และจำเลยที่  2 ในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ บนภูเหล็กไฟ ซึ่งทางพนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ได้มาถึงบริเวณศาล พร้อมกับนายสุรชัย ชินชัย ทีมทนายความส่วนตัว โดยลุงพลสวมใส่เสื้อสูทสีกรมท่า ขณะที่ป้าแต๋นสวมใส่เสื้อสีขาว 

ต่อมาเวลา 09.45 น. นายอนามัย วงศ์ศรีชา และ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อแม่ของน้องชมพู่ เดินทางมาถึงที่ศาลจังหวัดมุกดาหารด้วยเช่นกัน โดยแม่น้องชมพู่ ได้เปิดกระจกรถแล้วยกมือไหว้สวัสดีสื่อมวลชน พร้อมกับยิ้มทักทายก่อนจะเข้าไปที่ศาล 

ทั้งนี้ลุงพลกับป้าแต๋น ได้เดินทางเข้าไปด้านในก่อน จากนั้นครอบครัวของน้องชมพู่ก็เดินเข้าไปภายหลัง สังเกตได้ว่ามีการหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีกองทัพสื่อมวลชนจากหลากหลายสำนัก รวมถึงยูทูปเบอร์ FC ของ"ลุงพล - ป้าเเต๋น" มาปักหลักเฝ้ารออยู่บริเวณทางเข้าศาลเป็นจำนวนมาก รวมถึง นายชัยรัตน์ ยอดพรม หรือ ปู่มหามุนี ได้นำพวงหรีด พร้อมป้ายข้อความ "กำลังใจ ลุงพลป้าแต๋น" มาวางไว้บริเวณฝั่งตรงข้ามศาลด้วย 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้น นางสาวิตรี แม่น้องชมพู่ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนสั้นๆ ว่า ส่วนตัวรู้สึกตื่นเต้น และลุ้นกับผลคำพิพากษาในวันนี้ เพราะเป็นคดีที่แม่รอคอยมานานถึง 3 ปี ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ได้กังวลใจอะไร เมื่อคืนก็นอนหลับปกติ เพราะหลังจากคดีนี้เข้าสู่ศาลแล้วตัวเองก็คลายความกังวลลงไปมาก วันนี้ก็พร้อมน้อมรับฟังคำตัดสินทุกประการ 

สำหรับคดีดังกล่าว พนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหารเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายไชย์พล หรือ ลุงพล และน.ส.สมพร หรือ ป้าแต๋น สองสามีภรรยาเป็นจำเลยที่ 1-2 โดยฟ้องนายไชย์พล เป็นจำเลยที่ 1 ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา,พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันสมควร,ทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกิน 9 ปีไว้ ณ ที่ใด เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตนโดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้ผู้ถูกทอดทิ้งถึงแก่ความตาย,ร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทําให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป 

ส่วนน.ส.สมพร เป็นจำเลยที่2 ตามความผิดฐานร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป