ผู้ปกครองนักเรียนหญิงวัย14 โร่แจ้งความตำรวจ หลังถูกนักเรียนชายรัดคอล่วงละเมิดทางเพศคาโรงเรียน แจ้งโรงเรียนจัดการ แต่ได้แค่ทำบันทึก
วันที่ 30 ธ.ค. 66 ที่สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี นางหนู อายุ 39 ปี (สงวนนามสกุล) มารดาของน้องม่อน (นามสมมติ) วัย 14 ปีนักเรียนชั้น ม.1/5 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานีพร้อมนายจอม ลุงของน้องม่อนเข้าแจ้งความต่อพนักงานสืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี
โดยระบุว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 25 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในช่วงที่โรงเรียนเลิกเรียน น้องม่อนกำลังจะเดินออกจากโรงเรียน ระหว่างเดินผ่านหน้าแท็งค์น้ำถูก ด.ช.บัณฑิต (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ม.1/3 โรงเรียนเดียวกันปรี่เข้ามาใช้แขนรัดคอบังคับลากเข้าไปที่ซอกข้างแทงค์น้ำแล้วลวนลาม ใช้มือบีบหน้าอก พร้อมกับใช้ปากดูดบริเวณหน้าอกจนเป็นรอยช้ำแดง ก่อนที่จะถูกลวนลามไปมากกว่านี้ ได้มีนักเรียนรุ่นพี่เดินผ่านมา ด.ช.บัณฑิต (นามสมมติ) เห็นท่าไม่ดี จึงปล่อยให้น้องม่อนกลับออกมา ลูกสาวจึงรีบกลับบ้านแจ้งพ่อและแม่ทราบ
หลังจากนั้นผู้ปกครองได้มาแจ้งกับทางโรงเรียน ในวันต่อมาครูได้เรียก ด.ช.บัณฑิต (นามสมมติ) เข้ามาสอบถาม และได้ทำบันทึกไว้ว่า หากทำผิดจริงจะให้ย้ายออกจากโรงเรียน
วันต่อมาพ่อของผู้ก่อเหตุได้ติดต่อเจรจาจะชดใช้เป็นเงินรวม 25,000 บาท แต่จะขอแบ่งชำระเป็นงวดละ 5,000 บาท ทางผู้ปกครองทราบเรื่องไม่พอใจ จึงพาเข้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะเกรงว่าจะไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก
โดยน้องม่อน เล่าว่า วันเกิดเหตุต้องแก้0 อยู่บนห้องเรียน จนเวลาประมาณ 4 โมงกว่าเพื่อนของตนได้กลับบ้านหมดแล้ว เมื่อเสร็จแล้วตนก็ได้เดินลงมาจากอาคารเรียน สังเกตเห็นเพื่อนชายคนดังกล่าวได้เดินตามมา และพยายามเข้ามาจะพูดคุยด้วย ก่อนจะใช้แขนล็อกคอและลากเข้าไประหว่างทางเดินอาคารเรียนที่มีแท็งก์น้ำอยู่ ซึ่งในช่วงนั้นตนพยายามที่จะขัดขืน แต่ผู้ก่อเหตุกลับถามว่าจะยอมหรือไม่ยอม ถ้าไม่ยอมจะรัดคอให้หนักกว่าเดิม ด้วยความกลัวตนจึงต้องยอมอยู่เฉยๆ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้มือล้วงจับที่หน้าอกก่อนจะใช้ปากดูดจนเกิดรอยแดง
ตนก็พยายามเดินหนีผู้ก่อเหตุก็ได้เดินตามมา หวังที่จะทำซ้ำก่อนจะมีเพื่อนรุ่นพี่เดินผ่านมาทางนั้นพอดี ตนก็บอกผู้ก่อเหตุว่าถ้าไม่หยุดจะบอกให้รุ่นพี่ช่วย ผู้ก่อเหตุจึงยอมปล่อย พร้อมทั้งถามว่ามีเงินไหมขอเงินหน่อย ตนก็ได้ยื่นเงินให้ไป 10 บาทก่อนจะรีบวิ่งหนีกลับบ้านไป ซึ่งตอนนี้ตนก็กลัวจนไม่กล้าที่จะไปโรงเรียน
ด้านนางหนู กล่าวว่า หลังจากที่ได้รู้เรื่องจากลูก ตนก็ได้เดินทางไปที่โรงเรียนไปเจอกับรองผอ.และคุณครูคนอื่นๆ คุณครูก็ได้เรียกผู้ก่อเหตุมาสอบถาม และได้ทำบันทึกไว้ ซึ่งตอนที่คุณครูถามผู้ก่อเหตุได้ยอมรับว่าเป็นคนลงมือลวนลามน้องม่อนจริงหลังจากนั้นครูได้บอกกับคุณแม่ว่าทางโรงเรียนจะพิจารณาให้ผู้ก่อเหตุย้ายไปเรียนที่อื่น ซึ่งตอนนี้ผู้ก่อเหตุก็ยังเรียนอยู่ที่เดิม แต่ผู้ก่อเหตุกลับไปเล่าให้เพื่อนๆ ในโรงเรียนฟังว่าลูกสาวของตนเป็นคนยินยอมที่จะไปกับผู้ก่อเหตุเอง ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ได้โทรไปถามผู้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุก็ยอมรับว่าเป็นคนพูดจริง ซึ่งตนในฐานะคนเป็นแม่ยืนยันว่าจะเอาเรื่องกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในโรงเรียน
ด้านลุงจอมพี่ชายของพ่อน้องม่อน กล่าวว่า ตนติดใจอยู่อีกหนึ่งประเด็น เพราะเมื่อคืนตนได้ติดต่อไปหา ผอ. เพื่อที่จะสอบถามความคืบหน้า แต่ตอบกลับตนว่าไม่รู้เรื่อง ซึ่งตนคิดว่าคุณครูที่รับเรื่องไว้ไม่ได้รายงานให้ ผอ.ทราบ ทั้งที่เรื่องนี้ควรจะถึง ผอ.ตั้งนานแล้ว
Advertisement