แม่คาใจ น้องโยโกะ พริตตี้สาวดับปริศนา พบที่นอนไม่มีรอยยับไม่เหมือนคนฆ่าตัวตาย ขอตำรวจสอบแฟนหนุ่มอย่างละเอียด
วันที่ 14 มกราคม 2567 คดีนี้สืบเนื่องจากน้องโยโกะ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 66 เวลา 00.48 น. เหตุเกิดที่ห้องพัก ชั้น 6 คอนโดฯแห่งหนึ่ง ย่านเอกมัย ห้องพักดังกล่าวเป็นห้องชุดติดกับสระว่ายน้ำ
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดบางบอน ศาลา1 ถนนเอกชัย แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร เพื่อไปสอบถามข้อมูลและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย นางธัญพัฒน์ สหัสธัชพงศ์ มารดาน้องโยโกะ ได้ให้ข้อมูลว่าแม่มั่นใจ ไม่ปักใจเชื่อว่าลูกจะทำร้ายตัวเอง ลูกร่าเริงและคุยกันปกติ
โดยก่อนหน้านี้อยากไปทานข้าวด้วยกันและยังวางแผนอนาคตด้วยกัน ก่อนหน้านี้ยังมีการคุยโทรศัพท์กับน้องก่อนเสียชีวิต ยังคุยกันปกติ ตัวน้องไม่มีปัญหาอะไร เท่าที่ทราบน้องนั้นมีแฟนอยู่หนึ่งคน แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร เพียงแต่ส่งรูปถ่ายให้แม่ดู ในส่วนที่แฟนของน้องมีครอบครัวอยู่แล้ว โดยตัวน้องไม่ทราบ ในส่วนของแฟนน้องได้เข้ามาในวันงาน แต่ไม่ได้ชี้แจงอะไรกับคุณแม่ ตัวคุณแม่เองได้ถามไปหลายคำถาม แต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมา ถึงสาเหตุการเสียชีวิตของน้อง
ในส่วนของคอนโดจะมีแฟนของน้องเข้าได้เพียงคนเดียว เพราะแฟนน้องเป็นคนที่รู้รหัส โดยส่วนตัวในส่วนที่ทางเข้าด้านหลังตรงพุ่มไม้ตรงจุดนี้แม่เองก็สงสัย ในส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจแม่เองก็ไม่พอใจ แลติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งไม่ตรงกับข้อมูล ในส่วนที่ว่าในกระเพาะของน้องมีแค่กาแฟและสารไซยาไนด์เพียงเท่านั้น ไม่มียา 10 เม็ด ตามที่กล่าวอ้าง
โดยในจุดที่เกิดเหตุที่แม่ไปเจอร่างของน้อง อยู่บนที่นอน ไม่มีรอยยับผ้าปูที่นอนปูอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งมันไม่ใช่ ถ้าเป็นคนที่กินยาฆ่าตัวตายต้องมีการดิ้นทุรนทุรายบ้าง ผ้าห่ม ต้องไม่เรียบร้อย สิ่งที่มุ่งหวังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คือการสอบสวนแฟนหนุ่มของน้อง ซึ่งแม่เชื่อว่าแฟนของน้องต้องรู้อะไรมากกว่านี้ ในส่วนที่ตำรวจเรียกพบ แม่ก็พร้อมไปให้ปากคำ โดยไซยาไนด์ที่พบ ทำไมถึงใส่ถุงซิปแล้วเอาไปไว้ในตู้เซฟ ซึ่งมันผิดวิสัยของคนฆ่าตัวตาย ในส่วนการฌาปนกิจร่างน้อง คงต้องรอจนกว่าคดีจะคลี่คลาย ส่วนของผลการชันสูตรของโรงพยาบาลตำรวจตอนนี้ยังไม่ได้
ทางด้าน นายสายธาร จันดา อายุ 51 ปี เป็นมัคนายก วัดบางบอน ให้ข้อมูลว่าตอนที่รับศพที่มาจากโรงพยาบาลจุฬา สภาพร่างกายของน้องนั้นยังปกติอยู่ ทางวัดได้นำเข้าตู้แช่ โดยมีการสวดอภิธรรมไปแล้ว 7 คืน โดยในวันที่ 8 ได้มีการเคลื่อนย้ายร่างน้องมาไว้อีกศาลา โดยสังเกตพบว่าร่างของน้องจะออกสีแดงคล้ายเลือด ทั้งตัว โดยผิดกับวันแรกที่เอานำเข้าโลงเย็น สภาพร่างกายนั้นปกติผิวร่างกายก็ปกติ โดยปกติแล้วสภาพศพที่อยู่ในโลงเย็นสภาพผิวพรรณจะคล้ำ ไม่ออกแดงแบบนี้ ซึ่งมันผิดปกติ ตนเองก็ไม่เคยเห็น ตัวเองอยู่กับศพมาแบบนี้สองปีแล้ว เป็นเพราะเหตุการณ์นี้ทำให้คุณแม่สงสัย โดยหลังจากสวดศพไปแล้วเจ็ดวัน ก็มีเจ้าหน้าที่มานำศพไปชันสูตรอีกครั้ง
Advertisement