ฮาสนั่นโซเชียล! พ่อค้ายาบ้าจนมุมตำรวจ ซุกยาบ้าในกล่องข้าวผัดกะเพรา

ฮาสนั่นโซเชียล! พ่อค้ายาบ้าจนมุมตำรวจ ซุกยาบ้าในกล่องข้าวผัดกะเพรา

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

จากกรณีเพจงานสืบสวน สภ.กุมภวาปีได้มีการโพสต์เหตุการณ์ขณะเข้าจับกุมพ่อค้ายาบ้าในพื้นที่รับผิดชอบ โดยมีข้อความระบุว่า #กะเพราทะเลของจริงหมึกกุ้งปูม้า #ปูหมดเหลือแต่ม้า พร้อมกับคลิปขณะตรวจค้นกล่องข้าวกะเพราหมึกกุ้งไข่ดาว ที่มียาบ้าห่อด้วยฟอยล์ 1 เม็ด เหตุเกิดวันที่ 25 มกราคาม 2567

ต่อมาเวลา 11.30 น.วันที่ 26 มกราคม2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ชุดสืบสวน สภ.กุมภวาปี พบ ร.ต.อ.รังสิมันต์ ภูเนตร รองสว.สส.สภ.กุมภวาปี นำกำลังตรวจค้นจับกุม เล่าว่า เมื่อเช้าวันที่25มกราคมได้รับรายงานจากสายข่าวว่า นายปิยะวัฒน์ สิทธิบุญ หรือเอก อายุ 45 ปี ซึ่งเคยถูกจับข้อหาครอบครองและจำหน่ายยาบ้าพ้นโทษออกมาแล้ว และเป็นบุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง ได้มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์เข้าออกบ้านนายปิยะวัฒน์เพื่อซื้อยาบ้าประจำ และวันนี้นายปิยะวัฒน์ นั่งกินข้าวอยู่หน้าบ้าน จึงนำกำลังออกไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบนายปิยะวัฒน์ กำลังนั่งกินข้าวกล่องผัดกะเพรากุ้งอยู่หน้าบ้าน จึงแสดงบัตร ปปส.ขอตรวจค้นไม่พบยาบ้าในตัว ซึ่งตำรวจแปลกใจว่าไม่พบยาบ้า ซึ่งนายปิยะวัฒน์เตรียมไว้ขาย จึงมองเห็นกล่องข้าวกระเพรากุ้งมีไข่ดาวกลบอยู่ด้านบน จึงได้เข้ามาค้นในกล่องข้าว พบยาบ้าห่อด้วยกระดาษฟอยล์สีเงินอยู่ในข้าว ระหว่างตรวจค้นได้มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา คาดว่าจะมาซื้อยาบ้าพอพบตำรวจจึงขี่หลบหนีไป

หลังพบยาบ้าในผัดกระเพราไข่ดาว จึงได้ตรวจค้นห้องนอนซึ่งภายในบ้านรกมาก มีถุงพลาสติกสำหรับแพคยาบ้าจำนวนมาก และพบตุ๊กตาหมีพูสีเหลืองโดนปาดหน้าท้อง เมื่อล้วงเข้าไปพบยาบ้าบรรจุซองพลาสติก 49 เม็ด รวมกับยาบ้าในผัดกะเพรา 1 เม็ดรวมเป็น 50 เม็ดควบคุมตัวพร้อมของกลางไปโรงพักดำเนินคดี “มียาเสพติดประเภท1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” 

ซึ่งนายปิยะวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นคนกรุงเทพฯพบรักกับภรรยา ชาว อ.กุมภวาปีที่โรงงานแห่งหนึ่ง จึงแต่งงานกลับมาอยู่บ้านภรรยามีลูก 1 คน มีอาชีพขับรถบรรทุกล่องและเคยถูกจับครอบครองยาบ้าติดคุก 1 ปีกว่า เมื่อพ้นโทษออกมาก็กลับมาเสพและขายยาบ้าอีกกระทั่งมาถูกตำรวจจับ

“ถือว่าตำรวจมีเซ้นต์ในการตรวจค้น เพราะว่านายปิยะวัฒน์มีท่าทีพิรุธ ทำให้มั่นใจว่าต้องมียาบ้าแน่นอน แต่ยังหาไม่พบ เมื่อมาประมวลระยะที่ตำรวจเข้าตรวจค้น เชื่อว่านายปิยะวัฒน์ทิ้งยาบ้าไม่ทันแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเอาซ่อนไว้ที่ไหน แต่พอเห็นกล่องข้าวผัดกะเพรามีไข่ดาวที่นายปิยะวัฒน์กำลังกิน ก่อนตำรวจจะเข้าค้น ความเป็นไปได้เชื่อว่านายปิยะวัฒน์คงเอายาซุกในกล่องผัดกะเพราแน่นอน จึงตรวจค้นกล่องผัดกะเพราและก็พบยาบ้าจริงๆ