เผาแล้ว น้องนุ่น เหยื่อผัวโหดฆ่าเผาอำพราง
คอนเทนต์แนะนำ
จากกรณี น.ส.ชลลดา มุธุรงศ์ หรือ น้องนุ่น อายุ 27 ปี หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา ภายหลังลงจากรถของสามี เวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากกลับมาจากฉลองวันเกิดของสามี ซึ่งทางกลุ่มเพื่อน ได้พากันโพสต์ตามหา แต่ยังไร้วี่แวว
ต่อมาทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” คุณเนม ภาณุพงศ์ สุรภาพ ไปเจอโครงกระดูกถูกเผาอำพราง ในป่า พื้นที่ ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งโครงกระดูกมีสร้อยข้อมือ คล้ายกับที่ น้องนุ่นใส่ในวันที่หายตัว
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบตัวนาย ศิริชัย รักทอง สามีน้องนุ่นที่บ้านพัก ก่อนจะเปิดปากสารภาพว่าลงมือทำร้ายเมียจนเสียชีวิต แล้วนำร่างไปเผาอำพรางที่ จ.ปราจีนบุรี จากนั้นตำรวจคุมตัวนายศิริชัยแจ้ง 3 ข้อหาหนัก ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 23 ก.พ. 67 นายชัยยา มุธุวงศ์ อายุ 49 ปี พ่อของ น้องนุ่น ได้รับร่างไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านดอนประทาย ตำบลหนองฮาง อำเภอม่วงสามสิบ อุบลราชธานี
วันนี้ (25ก.พ.67) ที่วัดบ้านดอนประทาย ทางครอบครัว เตรียมการสวดอภิธรรมศพของน้องนุ่นในเวลา 12.00 น.โดยจะมีการนิมนต์พระ 8 รูป เพื่อสวดอธิธรรมศพ หลังจากนั้นจะทำการ ฌาปนกิจศพของน้องนุ่นในเวลา 15:00 น. เช้าวันนี้ทางครอบยังคงจัดเต็นท์ เก้าอี้ และอาหาร ต้อนรับแขกที่จะมาร่วมงานฌาปนกิจศพในช่วงบ่ายของและมีญาติในครอบครัว เพื่อนฝูงและชาวบ้านทยอยเดินมาร่วมงานศพ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายอุดม มุธุวงศ์ ปู่ของผู้เสียชีวิต เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้เป็นวันที่จะส่งน้องนุ่นไปสู่สุคติ ก็ขอให้น้องนุ่น ไปเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ ส่วนทอยขอให้ได้รับโทษประหารชีวิตสถานเดียว เพราะมีพฤติกรรมที่โหดร้ายเกินจะรับได้ คนอื่นฆ่าเมียยังไม่โหดขนาดนี้ แต่นี่ทั้งทำร้ายทุบตีจนตายทั้งเผาศพ ก็ขอให้ได้รับโทษประหาร ส่วนตัวหลังจากน้องนุ่นเสียชีวิตไปแล้ว น้องนุ่นไม่เคยเข้าฝันหรือมาให้ตนพบเห็น แต่ตนก็อยากให้น้องนุ่นมาหา แม้จะอยู่คนละภพภูมิกันแล้วก็ตาม ตนคิดถึงน้องนุ่นเพราะน้องนุ่นเป็นคนดีมีสัมมาคาราวะ และเป็นคนร่าเริง และเป็นที่รักของคนในครอบครัว
Advertisement
