หลังเกิดอุบัติเหตุรถนักแสวงบุญพลิกคว่ำขณะลงเขาคิชฌกูฏ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและ บาดเจ็บ 9 คน ล่าสุดยังคงมีผู้แสวงบุญที่ไม่สิ้นแรงศรัทธายังคงแห่กันขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทฯ
ผู้แสวงบุญ นักท่องเที่ยวยังไม่สิ้นแรงศรัทธาแห่แหน เดินทางขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทหลวงเขาคิชฌกูฏเนืองแน่น แม้จะพึ่งเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เผยยังเชื่อมั่นในความปลอดภัย
คืนวันที่ 29 ก.พ. 67 หลังเกิดเหตุไม่คาดฝันที่ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถสองแถวรับส่งผู้โดยสารขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทหลวง บนยอดเขาคิชฌกูฏ เปิดประสบอุบัติเหตุ ระหว่างลงจากเขา เพื่อส่งผู้โดยสารไปที่คิวรถวัดพลวง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นคนไทยชาว จ.จันทบุรี และผู้บาดเจ็บจำนวน 9 ราย เป็นคนไทย 6 ราย และนักท่องเที่ยว ชาวรัสเซีย 3 ราย
ค่ำวันนี้ผู้สื่อข่าว จึงได้เดินทางไปที่คิวรถวัดพลวง เพื่อเก็บภาพบรรยากาศ ภายหลังเกิดเหตุการณ์สลด เบื้องต้นพบว่า ทั่วบริเวณวัดพลวงและสถานที่จัดงาน ตลอดจนบริเวณลานจอดคิวรถ ต่างเนืองแน่นไปด้วยคณะผู้แสวงบุญ ตลอดจนนักท่องเที่ยว ที่ยังคงไม่สิ้นศรัทธา ต่างเดินทางมารอขึ้นรถเพื่อเดินทางขึ้นไปกราบไหว้นมัสการรอยพระพุทธบาทกันอย่างเนืองแน่น ส่งผลทำให้ร้านค้า เครื่องบูชาสังฆทาน ร้านขายของฝาก มีบรรยากาศการซื้อขายคึกคักไปด้วย
ผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถาม นายพีระ เรืองภักดิ์ หัวหน้าคิวรถวัดพลวง ถึงเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ตลอดจนมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุของคิวรถสองแถวรับส่งผู้โดยสาร โดย นายพีระ หัวหน้าคิวรถวัดพลวง เปิดเผยว่ารถรับส่งผู้โดยสารในคิววัดพลวงทุกคัน จะต้องดำเนินการให้อยู่ในข้อกำหนดกฎเกณฑ์ดูแลมาตรฐานความปลอดภัยทุกคัน โดยจะมีการตรวจสภาพรถในทุก 7 วันเพื่อตรวจความพร้อมของรถในส่วนที่สำคัญ โดยเฉพาะระบบช่วงล่าง ทั้งตรวจผ้าเบรก ตรวจช่วงล่าง รวมถึงคุณภาพยางรถให้มีความสมบูรณ์อย่างสม่ำเสมอ ส่วนเรื่องยางที่เป็นประเด็นดราม่า ทางหัวหน้าคิวรถได้ให้ข้อมูลว่าเป็นยางประเภทที่เหมาะสำหรับทางราดชันขึ้นเขาอยู่แล้ว ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้มากว่า 20 ปี และในช่วงเย็นที่ผ่านมา ทางคิวรถก็ได้ มีการนำเสนอเรื่องดังกล่าว เข้าที่ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน เกี่ยวกับมาตรการในการเปลี่ยนคนขับทุกๆ 8 ชั่วโมง เพื่อให้คนขับได้มีการพักผ่อนอย่างเต็มที่ และทางคิวรถวัดพลวงยินดีที่จะเยียวยาผู้เสียชีวิต รวมถึงผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่ น.ส.ญาณิณท์ วรรณวรรค และ น.ส. นาว นักท่องเที่ยวชาว อ.ท่าใหม่ จันทบุรี ยังมีความเชื่อมั่น ไม่เป็นปัญหาหรือส่งผลกระทบด้านจิตใจ เพราะมาแสวงบุญทุกปี แต่ก็รู้สึกกลัวอยู่บ้าง ในบางช่วงที่คนแสวงบุญเยอะ รถที่มีความเร็วและตอนขับสวนทาง แต่ยังเชื่อมั่นในทักษะความเชี่ยวชาญของคนขับ จึงไม่รู้สึกกลัวมากนัก และอยากฝากถึงผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยว ที่ยังอยากมาทำบุญให้มาท่องเที่ยวจันทบุรีให้มาก ๆ โดยให้เช็ควันหรือช่วงสภาพอากาศช่วงที่ไม่มีฝน เนื่องจากจะมีความปลอดภัยมากกว่า
Advertisement